ผมยังจำได้ว่าเมื่อ20กว่าปีก่อนผมจู่ๆก็เข้ามาเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังไทยในขณะที่บรรดาพี่ญาติๆผมพากันต่อต้านว่ามีเงินไม่มีที่ใช้หรือไงถึงมาทำหนัง?แต่สาเหตุที่แท้จริงผมนั้นคือหลังจากที่หนังมาตั้งแต่เด็กหากมีโอกาสทำหนังก็อยากลองหาประสบการณ์ดู หลายคนนึกว่าผมจะเลื่อนขั้นไปจีบสาวงามในวงการดั่งที่อาเสี่ยต่างๆชอบทำกัน แต่หลังจากที่ผมก้าวเข้ามาญาติๆผมเห็นแจ้งแจ่มชัดว่ามันไม่ใช่สาเหตุนั้น ผมทำหนังมา7เรื่องโดยที่เรื่องสุดท้ายลงทุนมหาศาลถึง7ล้านบาทนอกจากได้กล่องแล้วผมยังได้มีชื่อติดเป็นคนทำหนังสวนกระแสโดยที่คนดูสมัยนั้นยังไม่มีความรู้เช่นปัจจุบันในขณะที่หนังได้รับเชิญไปร่วมเทศกาลมากมายที่ผมประทับใจที่สุดคือเทศกาลหนังนานาชาติที่ซานฟรานซิสโกคนที่นั่นให้การต้อนรับจนต้องเปิดฉายรอบที่2นั่นคือ "กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน" จากฝีมือกำกับของพี่มานพ อุดมเดช คุยเสียยาวก็เพื่อคุยถึงคนในวงการที่ส่วนใหญ่คนโบราณจะเรียกว่าวงการ"มายา" แต่ละคนมักจะใส่หน้ากากเข้าหากันดูอย่างคู่นี้ซิครับแต่งงานกันไม่ทันครบ365วันขาดไป10วันยังถึงขั้นหย่าขาดกันแบบทางการทิ้งไว้แค่ให้ขาเม้าท์เมืองไทยได้เม้าท์กันไปอีกเป็นสัปดาห์ แต่นางเอกหลายคนได้ดีก็เหมือนกันนะครับ ดูอย่างตั๊ก บงกช กับเจ้าสัวบุญชัยแห่งดีแทคซิครับ!

ตอนนี้มาคุยเรื่องหนังที่ผมไปดูมาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วกันดีกว่าไหม? ผลงานล่าสุดจาก เดอะร๊อค ที่แฟนๆที่แฟนๆมวยปล้ำคลั่งไคล้กัน เออร์คิวลิส ที่เมื่อต้นปีก็มีหนังชื่อนี้มาฉาย นั่นอาจจะเป็นหนังต้นทุนต่ำแต่ไม่ขี้เหร่คนแห่ไปดูกันมากมายทั้งๆที่คนแสดงไม่มีทางเทียบชั้นเดอะร๊อคผมได้ มาในภาคนี้พี่เรารับบทเป็นลูกครึ่งคนครึ่งเทพเชียวนา แถมรายชื่อดาราก็มีแกที่คนรู้จักกัน กำกับโดยผู้กำกับที่อยู่มนวงการนี่มานานนั่นคือ เบรท แรทเนอร์ ที่เคยเอาพี่เฉินหลงเรามาขึ้นจอใหญ่ฮอลลีวู๊ดมาแล้ว แต่ในเรื่องเขาทำการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องแบบไม่เกรงใจค่ายดิสนีย์ที่อุตสาห์ปั้นเฮอร์คิวลิสผู้นี้ให้เด็กในโลกนิยมชมชอบซึ่งทำให้เนื้อเรื่องขายเอามันส์มากกว่าสาระ ก็คิดว่าไปดูหนังคลายเครียดคืนความสุขให้ตัวเองละกัน..สวัสดีครับ