Chiangmai Vista
Home | Vista Variety | Vista Movie | Show time

9/24/15

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปพนมเปญกัมพูชาเพื่อทำหน้าที่แจกรางวัลให้ลูกค้าของเรา ราชาชูรส จริงอยู่ที่ว่ามูลค่าแต่ละรางวัลเทียบเท่าเงินไทยเพียง4-5พันบาทแต่ในด้านจิตใจของลูกค้าโดยเฉพาะเจ้าที่มารับเป็นลูกค้ารายใหญ่ระดับยี่ปั๊วซึ่งแต่ก่อนราชาชูรสแทบจะไม่ได้ให้อะไรตอบแทนเขาเลย ตั้งแต่ผมมาดู13-14ปีมานี้เราก็จะมีการจับฉลากแทบทุกเดือนให้พวกเขาได้ลุ้นกันเดือนละครั้ง เพราะทุกวันนี้การเติบโตของกัมพูชาโดยเฉพาะเมืองหลวงเขาพนมเปญโตมากๆ ผมตั้งเป้ายอดขายเราไม่ต้องให้มากขึ้นตามจำนวนประชากรแต่ขอให้อยู่ในปริมาณเท่าเดิมก็ดีใจแล้วครับ จนมาบัดนี้ปริมาณที่เราขายเข้าไปก็พอๆกับก่อนแต่ขนาดตลาดมันใหญ่ขึ้นก็ตามมีคู่ต่อสู้มากรายขึ้น ก็สังเกตุดูได้ว่าลูกค้ารายใหญ่เราทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มกันถ้วนหน้า และเพื่อเป็นข้อมูลท่านในตลาดเขมรเราเป็นอันดับ1โดยที่มีอะยิโน๊ะโม๊ะโต๊ะที่อันดับ1ในไทยก็เป็นรองเราครับทั้งปริมาณนำเข้าหรือราคาเขาถูกกว่าเราจงภูมิใจเถิดครับว่าสินค้าไทยอย่างราชาชูรสก็ไม่อายเขาในอินโดจีนไม่ว่าจะลาว พม่า เขมร..  ทุกครั้งที่ผมไปต่างประเทศปัญหาใหญ่คือการติดต่อผ่านทางไลน์ซึ่งแต่ก่อนผมมักจะนำPOCKET WIFIไปใส่ซิมท้องถิ่นแล้วใช้ร่วมกับมือถือผม มาระยะหลังตั้งแต่ไปญี่ปุ่นผมได้มสมัครDATA ROAMING ที่แตกต่าง VOICE ROAMING ที่ใช้ได้เฉพาะการโทรหากันด้วยเสียงซึ่งทุกวันนี้เขาเปิดให้สมัครแล้วแต่เราต้องการเป็นวันโดยที่ใช้ได้ไม่จำกัดไม่ว่าจะกี่GBก็ตามดังนั้นมันจึงทำให้ไลน์ผมไม่ต้องไปเปลี่ยนเบอร์หรือเครื่องก็ใช้เครื่องที่ผมใช้ทุกวันที่กทม.นี่แหละสะดวกมากดูเหมือนวันละ280บาทในกรณีใกล้ๆไทยเรา ส่วนยุโรปหรือแถบออสเตรเลียราคาต่อวันก็อาจจะแพงกว่ากันนิดหน่อย ดังนั้นหากใครเดินทางบ่อยเหมือนผมน่าจะหันมาใช้การให้บริการแบบนี้อีกทั้งสัญญาณที่เขามีให้ก็เป็นระบบที่ดีมากไม่หลุดไม่ว่าจะติดต่อทางภาพหรือวีดีโอทำให้เราสะดวกมากขึ้นแม้แต่การดูข่าวจากทางช่องทีวีบ้านเราต่างๆสามารถดูได้แถมบางสถานีดูย้อนหลังได้เช่นของเนชั่น อ่อลืมไปดูละครได้เหมือนอยู่ในไทยเลยครับ อันนี้อาจจะสำหรับคนบ้าโซเซียลเหมือนผมและใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเดือนๆก็หลายวันอยู่ เลยขอนำมาฝากแฟนๆวิสต้าให้ได้รับรู้อีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารที่ทุกวันนี้มันไปไวเสียเหลือเกิน...สวัสดีครับ

9/17/15

ไหนๆไปทั้งทีก็ยังคงมีรูปสวยๆมาฝากสำหรับคนที่ยังไม่เคยไปญี่ปุ่น นี่คือหัวรถไฟที่มีความเร็วสูงสุด300ก.ม./ชั่วโมงช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางในญี่ปุ่นเป็นอย่างมากแทนที่จะต้องนั่งรถทั้งวันเหลือเพียง2-3ชั่วโมงแต่แน่นอนราคาย่อมต้องแพงกว่าทัวร์ที่เราจัดก็ให้เขานำเราขึ้นรถจากสถานีรถไฟที่โอซาก้าเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิใช้เวลา3ชม.หากนั่งรถเป็นวัน นอกจากนั้นก็ขอนำรูปลูกค้าชูรสรายใหญ่ของกัมพูชามาโชว์หน่อยเพราะปีหนึ่งหลายร้อยล้าน อีกทั้งเรามีนโยบายงดเชื่อเบื่อทวงเงินมาของไปแถมซื้อขายกันด้วยเงินยูเอส เวลานั่งบนรถไม่ค่อยจะรู้สึกเรื่องความเร็วมากนักทั้งๆที่รู้ดีว่ามีเฉพาะบางครั้งเท่านั้นที่รถวิ่งเต็มสปีด300ก.ม./ชม.ความเงียบใช้ได้ครับ ใครไปเที่ยวน่าจะลองใช้ดูหลังจากกลับมาก็ต้องขึ้นเชียงใหม่เพราะเพราะเป็นห่วงยิ่งช่วงนี้การแข่งขันของโรงหนังสูงมากจนบางแห่งลดราคาลงมาเหลือ40-60บาทแต่ที่เขากำไรคือบรรดาขนมเช่นข้าวโพดน้ำดื่มซึ่งวิสต้าไม่มีขาย หนังที่ดูแน่นอนต้องเป็นหนังภาคต่อจากฝีมือผู้กำกับชื่อดังฝรั่งเศสที่ชื่อลุ๊ค แบงซองชำนาญในเรื่องความเร็วจนเป็นที่รู้จักทั้วโลก บรรดารถยี่ห้อดังๆก็พร้อมที่จะให้รถของตัวเองได้เข้าฉาก มาคราวนี้มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนพระเอกจากพระเอกคนแต่ดั้งเดิม เจสัน สเตแธมมาเป็นพระเอกใหม่ที่เริ่มฉายแววจากหนังซีรี่ย์ที่ผู้คนติดกันงอมแงม Came of Thornes เขาผู้นั้นคือเอ็ด  สเคลนหนังเรื่องที่ผมไปดูก็คือ Transporter วึ่งจะว่าไปมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับภาคก่อนๆ แต่หนังยังคงสนุกมันส์กับฉากรถไล่รถเช่นเคย ทำเอาคนบ้ารถแบบผมอยากได้เจ้าออดี้S8D4ขึ้นมาทันทีแต่จนด้วยเกล้าเพราะราคาแพงจับใจครับแถมถนนหนทางบ้านเราคงหาทางวิ่งยาก หนังคงความสนุกอีกทั้งมีของสวยๆงามๆมาประดับฉากเช่นเคย ช่วงนี้หนังส่วนใหญ่ที่เข้าเป็นหนังระดับเล็กๆเพราะเด็กๆติดสอบต้องรอช่วงต้นเดือนต.ค.ค่อยจะมีมีหนังระดับบิ๊กๆมาอวดโฉมดังนั้นถือว่าดูๆกันไปก่อนล่ะกันนะครับ สวัสดี..

9/9/15

ห่างเหินกันไปอีกอาทิตย์นะครับที่ไม่ได้เขียนวาไรตี้เพราะติดพาลูกค้าระดับวีไอพีอินโดจีนของราชาชูรสไปเที่ยวญี่ปุ่นฉบับย่อเคยฝันจะพาลูกค้าเราไปกว่า3ปีมาปีนี้ถึงได้ตามฝันกับการนำลูกค้า9บริษัทพร้อมผู้ติดตามไปรวม18ชีวิตรวมกับผมและทีมงานอีก3คนทั้งหมด21คนไปกันเกือบ7วัน โดยเราบินออกจากสุวรรณภูมิเวลา23.30ของคืนวันที่31ส.ค.ด้วยสายการบินไทยมุ่งหน้าสู่สนามบินกันไซเมืองโอซาก้าด้วยเวลาเกือบ5ชั่วโมงเมื่อถึงเราก็พากันไปเที่ยวเมืองใกล้ๆที่ชื่อนาราอันมีวัดสวยๆหลายวัด ทานอาหารกลางวันเสร็จก็พาไปอีกเมืองใกล้ๆกันคือเกียวโตไปชมวัดที่มีปราสาททองจริงๆทั้งหลังแล้วกลับมาค้างคืนที่โอซาก้าเช้าวันรุ่งขื้นเที่ยวปราสาทและให้เวลาชอปปิ้ง วันรุ่งขึ้นจับรถไฟชินกันเช่นที่มีความเร็ว2-300ก.ม./ชม.สู่ภูเขาไฟฟูจิที่หากนั่งรถทัวร์มาก็ทั้งวันแต่นี่ใช้เวลาเพียง3ชั่วโมง ฝนตกพรำๆกลัวจะเห็นภูเขาไฟฟูจิไหมหนอ ตื่นเช้ารีบเปิดหน้าต่างท้องฟ้าใสเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มๆไม่มีอะไรมาบดบัง วันต่อมาเข้านครโตเกียว พักค้างที่โรงแรมใจกลางแหล่งบันเทิงชินจูกุให้ลูกทัวร์ได้เดินชื้อของก่อนกลับบ้านในกลางดึกวันรุ่งขึ้น วันสุดท้ายพาเที่ยววัดสำคัญหากมาไม่ไปไหว้ก็เปรียบเหมือนไม่ได้มานั่นคือวัดอะชะคูช่าแล้วพาขึ้นหอคอยที่เขาว่าสูงที่สุดของโลกปัจจุบันชื่อว่า TOKYO SKYTREE แล้วส่งขึ้นเครื่องการบินไทยกลับเมื่อ2ยามกว่าๆของวันอาทิตย์ นานๆผมเดินทางกลางคืนถึงรู้ว่าหากบินเพียง5-6ชั่วโมงมันทำเอาวันรุ่งขึ้นรู้สึกไม่ค่อยสบายเพราะนอนไม่เต็มที่แต่ทำไงได้มากับทัวร์ ลูกทัวร์ผมระดับวีไอพีของทั้งลาวเขมรและแม่สอดก็น่ารักเหมือนเดิมครับ ทัวร์อื่นมีเหล้าเบียร์ไวน์เสริฟตลอด ทัวร์นี้น้ำเปล่าและไม่มีใครเอ่ยปากเลยครับ ราชาชูรสพาลูกค้าไปเทียวก็ช่วงที่ผมมาดูแลครับ 13ปีไปมา5เที่ยวนับแต่สิงคโปร์/มาเก๊า/เซี่ยงไฮ้/ไต้หวันและก็ครั้งนี้ญี่ปุ่นก็หวังว่าคงจะมีโอกาสพาพวกเขาไปกันอีกเพราะแต่ละปีลูกค้ากลุ่มนี้ซื้อชูรสเราเป็นร้อยๆล้านด้วยเงินสด...สวัสดีครับ