วิสต้าวาไรตี้ 27 มีนาคม 2551

31มีนาคมเป็นวันครบรอบปีของการก่อตั้งโรงภาพยนตร์แห่งแรกของเราในเชียงใหม่ แต่น่าเสียดายที่โรงภาพยนตร์2โรงแรกของเราบัดนี้ก็ได้สูญสลายไปตามกาลเวลาเสียแล้ว มีเพียงภาพให้ได้เห็นกัน นั่นคือโรงภาพยนตร์วิสต้าเจริญเมือง1-2 ทั้งนี้และทั้งนั้นผมคิดว่าเป็นวฏจักร์ มีเกิดก็ต้องมีดับ ไม่ว่าอะไรในโลกนี้ ความเจริญมาสู่เชียงใหม่กับเวลา16ปี หลายคนในวัยผมอาจไม่เชื่อสายตา แต่มันเป็นจริงแล้วครับ จากโรงหนังที่เป็นไม้อีกทั้งที่นั่งก็เป็นไม้เช่นกัน จนพัฒนามาเป็นโรงแบบมินิเธียร์เตอร์ซึ่งถึงจะใหม่แต่ด้วยความจำกัดของโครงสร้างอาคารที่มิได้ก่อสร้างมาเพื่อเป็นโรงภาพยนตร์เลยทำให้ทัศนวิสัยในการชมก็มีการบดบังกันบ้าง หลังจากนั้นมัลติเพล็กซ์ก็เกิดขึ้นตามศูนย์การค้าต่างๆ ที่สร้างตามแบบ จึงทำให้การชมดีขึ้น แล้วจึงมาถึงสมัยการแข่งขันในเรื่องเสียงภายในโรง ที่ฝรั่งช่างคิดทำให้มีการนำเอาระบบดิจิตอลที่สามารถให้เสียงได้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น เล่นเอาผู้ดูพาต้องหลบกระสุนกัน ต่อมาพัฒนาเรื่องเบาะที่นั่ง ทั้งหมดก็คือพัฒนาการของโรงภาพยนตร์ไม่ว่าที่กทม.หรือที่เชียงใหม่
สำหรับที่นี่เราเป็นผู้บุกเบิกตั้งแต่ต้น กับจำนวนกว่า18โรงทั้งเชียงใหม่ ที่เราเคยทำมา จนบัดนี้เรามีเพียง7โรงบนกาดสวนแก้ว ย่อมให้เห็นถึงความเจริญของชาวเชียงใหม่ จนทำให้ยักษ์ใหญ่ระดับชาติอย่างเมเจอร์มาเปิดโรงแข่ง กับความเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จึงทำให้การสร้างการปรับปรุงทำได้โดยง่าย รวมถึงอิมเมจของเขา เท่าที่เราทำได้ก็เพียงเป็นโรงภาพยนตร์ที่แฟนๆชาวเชียงใหม่ที่คิดว่ากับการชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งคงไม่ต้องอาศัยบรรยากาศมากมาย และก็ทำเอาราคาค่าชมต้องเพิ่มขึ้นด้วยหันกลับมาอุดหนุนเราหลังจากที่ไปเห่อของใหม่อยู่หลายปี 70บาทในวันธรรมดาและ90บาทในวันสุดสัปดาห์เราไม่เคยขึ้นเลยไม่ว่าค่าครองชีพทุกวันนี้มันจะขึ้นไปมากต่อมากแล้วก็ตาม เพราะค่าใช้จ่ายของเราไม่มากเหมือนเขา อีกทั้งการประหยัดรายจ่ายที่ร่วมกันทำจากพนักงานจึงทำให้เรายังยืนอยู่ได้ทุกวันนี้ ถึงแม้หนังที่เขาฉายบางครั้งไม่ได้เข้าฉายทุกเรื่องอย่างแต่กอ่น ทั้งนี้และทั้งนั้นก็คงเป็นเพระาเจ้าของหนังเขากลัวจะเพิ่มค่าใช้จ่ายของเขาในเรื่องของก๊อปปี้หนังแต่ละเรื่อง รายได้ที่อาจจะไม่ได้ดีเท่าเมเจอร์ เราทราบดีว่าแฟนๆหลายคนมาแล้วผิดหวังไม่ได้ดูทั้งๆที่ตัวเองตั้งใจจะมาดู เราขอโทษและขอขอบคุณอีกครั้งที่แฟนๆชาวเชียงใหม่ให้การสนับสนุุนเราด้วยดีเสมอมา และเราขอสัญญาที่จะให้ลูกค้าของเราได้ประทับใจกับความบันเทิงที่ราคาแสนถูกแต่ไม่ด้อยคุณภาพ เราขอบคุณพนักงานทุกคนที่มีจิตวิญญาณในการบริการลูกค้าประทับใจ...ขอบคุณครับ

วิสต้าวาไรตี้ 20 มีนาคม 2551

หลังจากที่ได้ไปเที่ยวชมหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก นครวัต นครทม เมื่อช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับลูกๆ เกิดประทับใจในความงดงามของที่แห่งนี้เลยเกิดความคิดที่จะนำกรรมการบริหารสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กทม. ที่ผมเป็นนายกฯมาถึง8สมัยไปเที่ยวกันซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้จัดทัวร์ให้พวกเขาได้ไปลาว-เวียดนามตอนกลางดานัง/เว้ เมื่อกลับมาบรรดากรรมการที่ไม่ได้ไปตอนนั้นเสียดาย ถึงแม้เราจะมีกัน30กว่าคน แต่เที่ยวนี้ไปกันเพียง21คน ดังนั้นเพื่อให้ครบตามจำนวนที่กรุ๊ปทัวร์เขากำหนดคือ30คน จึงนำทีมขายของราชาชูรสไปแจมด้วย รวมกันได้มาครบตามจำนวน ออกเดินทางตั้งแต่ก่อนรุ่งสางจากทม.มุ่งสู่อรัญประเทศเพื่อไปข้ามแดนที่นั่น หลังจากการเดินผ่านด่านประเทศไทยมีบรรดาคาสิโนมากมาย เมื่อเดินถึงด่านเขมร เราทำวีซ่ามาก่อนจึงสะดวกในการผ่าน ใช้เวลาไม่กี่นาที เดินทางอีก45กิโลที่ถนนขรุขระบ้างแต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนใช้เวลาเกือบชั่วโมงเราถึงเมืองศรีโสภณ(ในอดีตเคยเป็นของไทย) ใช้ห้องน้ำแล้วจึงออกเดินทางต่อไปยังเมืองเสียมราฐหรือเสียมเรียบระยะทางเพียง100กว่ากิโล แต่เนื่องจากถนนไม่ดี กำลังพัฒนาอยู่(คาดว่าปีหน้าคงจะเสร็จ) กับเวลากว่า2ชั่วโมงเราจึงถึงเมืองเสียมเรียบ รับประทานอาหารเที่ยงแล้วเขาพาไปล่องทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของเอเซีย "โตนเลสาบ" ดูชีวิตความเป็นอยู่ของคนชาวแพ ก่อนพระอาทิตย์จะอัสดงเขาพาเราขึ้นเขาไปชมพระอาทิตย์ที่จะตก นอกเหนือจากความสูงของภูเขาเรายังต้องปีนบันไดขั้นเล็กๆกว่า100ขั้นขึ้นไปที่ปราสาท ผู้คนรอชมพระอาทิตย์ตกเรือนหมื่น
เช้าวันรุ่งขึ้นพาเที่ยวนครวัต นครทม เพราะอากาศที่แสนร้อนต้นฤดูร้อนเล่นเอาหลายคนเพลียกันเป็นแถว แต่กับความงามที่ตอนอยู่ที่นั่นก็เฉยๆ แต่เมื่อถ่ายภาพออกมาแล้วพากันหายเหนื่อยและหวังจะกลับไปอีกครั้งในหน้าหนาวปลายปีดั่งที่ผมเคยพาลูกๆไปมา
วันที่3พาไปช๊อปปิ้งแต่ราคาแพงมากเพราะที่นั่นเขาซื้อ-ขายเป็นเงินดอลลาร์ กลับไปทานอาหารเที่ยงที่ศรีโสภณแล้วจึงเดินทางกลับผ่านด่านปอยเปต/อรัญฯเมือนขามา ทุกคนบอกคุ้มค่าต่อการนั่งรถเขย่าเหมือนเล่นของเล่นในสวนสนุกเกือบ2ชั่วโมง ผมดีใจที่ทุกคนมีความสุขและสัญญาว่าปีหน้าอาจจะพาไปเที่ยวชมความงามของลาวใต้ ปากเซกันอีก เอารูปสวยๆมาฝากให้ชม...สวัสดีครับ

วิสต้าวาไรตี้ 13 มีนาคม 2551

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเดินทางไปฉลองวันเกิดให้ลูกสาวคนเล็กปัจจุบันอายุครบ18ปีแล้ว เผลอแป๊ปเดียวจากที่เห็นเขาเด็กๆจนบัดนี้เขาบรรลุนิติภาวะแล้ว ที่นิวซีแลนด์สามารถไปซื้อสุรา/เข้าผับได้ ทันกลับได้รับทราบถึงอาการพระประชวรของสมเด็จพระนางเจ้าฯ จึงไม่ค่อยสบายใจนัก จนบัดนี้ได้ทราบว่าพระอาการป่วยได้บรรเทาเบาบางลงแล้ว จึงขอใคร่ขอถวายพระพรให้ท่านหายจากอาการพระประชวรไวๆ และเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดกาลนานเทอญฯ
ลูกสาวไปเรียนที่นิวซีแลนด์ตั้งแต่แกจบป.6ของเรา ถือว่าอยู่ที่นั่นนานกว่า6ปีแล้วครับ ปีหน้าแกจะเข้ามหา'ลัยแล้ว แต่จนบัดนี้ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียนอะไรต่อ ผิดกับพี่สาวแกที่ตอนนี้กำลังทำปริญญาโทด้านการโรงแรมอยู่ที่สวิสฯเขามีการวางแผน นานนับปี อาจจะเพราะช่วงนั้นผมมีเวลาค่อนข้างมากและเดินทางไปเยี่ยมแกบ่อยๆจนทำให้แกตัดสินใจได้ไวกว่า วันนี้เลยขอนำรูปการฉลองวันเกิดแบบเงียบๆมีพ่อแม่ลูกชาย(ซึ่งในเดือนพ.ค.จะมีอายุครบ21ปี)และลูกสาวคนเล็กที่บ้านหลังเล็กๆที่โน่น แถมรูปลูกชายที่ตอนเด็กๆมาเที่ยวเชียงใหม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ มาทาบเคียงกับปัจจุบันให้ดู
ไปครั้งนี้ก็เหมือนเดิมคือนั่งสิงคโปร์แอร์ไลนส์ไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์ แน่นอนว่าต้องเป็นอาคาร3ที่เพิ่งเปิดใหม่ ใหญ่โตยังกับเดินอยู่พารากอน/เอ็มโพเรียมของไทย นี่เขายังไม่หยุดนะครับกำลังจะก่อสร้างอาคาร4 ผมก็งงที่ทำไมเขาสร้างเอาสร้างเอาทั้งๆที่ประเทศก็เล็กนิดเดียวไม่มีภายในประเทศ/ต่างประเทศ แถมแต่ละอาคารที่สร้างใหญ่โตเปิดนานเท่าไหร่ก็ไม่มีเก่า ไม่เหมือนของเราเปิดปีกว่าฝรั่งมันบอกว่าคิดว่าเปิดมาหลายปี สกปรกก็เท่านั้น ห้องน้ำห้องท่าทำเพิ่มก็ไม่เสร็จสักที ของเก่าก็ชำรุดทรุดโทรมเสียมากมาย และแน่นอนว่าขึ้นเครื่องสิงคโปร์ทีไรผมมีความสุขมากๆเพราะเขามีโทรทัศน์ส่วนตัวฉายหนังใหม่ให้ได้ชมกัน เที่ยวไปยังไม่ได้ดูมากเพราะบินกลางคืน นอนเป็นส่วนใหญ่ แต่ขากลับเป็นกลางวัน ปกติจะดูหนังประมาณ5เรื่องเพราะใช้เวลาบินจากที่นิวซีแลนด์มาสิงคโปร์10ชั่วโมงเศษ เที่ยวนี้ดู JUNO ที่นางเอกวัย16ได้เข้าชิงออสการ์ปีที่ผ่านมากับเรื่องของเด็กวัย16ตั้งท้อง ดูหนังรางวัลดารานำชายเดเนียล เดย์ลูอิส จาก THERE WILL BE BLOOD อาจจะเพราะหัวสมองไม่ถึงเลยดูแบบหลับๆตื่นๆ และที่ดูในโรงที่นั่น 10.000 BC สนุกดีครับ สวัสดี...

วิสต้าวาไรตี้ 6 มีนาคม 2551

หลังจากที่ต้องร่อนเร่พเนจรถึงเกือบ1ปีครึ่งของอดีตนายกฯที่รักยิ่งของผม วันที่28ก.พ.09.45น.ท่านได้เดินทางกลับสู่บ้านเกิด ด้วยความคิดถึงยิ่งของตัวท่านและประชาชนชาวไทยจำนวนมาก กับการที่ก้มลงกราบพื้นทำเอาหลายคนน้ำตานองหน้า แต่จำนวนคนที่มาต้อนรับอาจจะไม่ได้ตามคาดเพราะคงจะเป็นหลักพันเท่านั้น ก็ไม่ทราบว่าท่านจะพำนักอยู่ในเมืองไทยนานแค่ไหน เพราะกับการกลับมาเพียงไม่กี่วันท่านก็เริ่มจะทำตัวเป็นนินจา ผลุบๆโผล่ๆ ก็ด้วยคำอ้างว่าต้องการความเป็นส่วนตัวกับครอบครัว ซึ่งรวมถึงนักร้องสาวลิเดียด้วย??? คงขอต้อนรับท่านกลับสู่ประเทศไทย และหวังมากๆว่าท่านคงจะกลับมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจเมืองไทยให้กลับเป็นเหมือนตอนที่ท่านเป็นนายกฯ เพราะผู้ที่เลือกพลังประชาชนก็เพียงเพื่อหวังให้ท่านกลับมาแนะนำทิศทางเดินให้กับเศรษฐกิจไทยที่กว่า2ปีแล้วที่แย่มากๆ ประชาชนไม่มีเงินออกมาใช้จ่ายเช่นก่อน แต่ในความคิดของผมคนปัญญาเท่าหางอึ่งคิดว่าคงยากครับ ไหนจะน้ำมัน/ค่าเงินบาทมันไม่เหมือนก่อนแล้ว ใครที่หวังรอให้ท่านมาแจกเงินหมู่บ้านละล้าน คงอาจจะลืมไปว่าท่านยังไม่จ่ายหนี้เก่าเลยแล้วยังจะมารอเงินก้อนใหญ่อีกหรือ? รัฐบาลไหนจะมีเงินมากมายมาให้ท่าน? พระท่านสอนตนเป็นที่พึ่งแห่งตน!
หลายวันก่อนอ่านนสพ.พบว่าไม่ว่าจะท่านรมต.คมนาคมใหม่หรือกรรมการผู้จัดการใหญ่การบินไทยออกมาประสานเสียงว่ากรุงเทพฯน่าจะมีสนามบินนานาชาติเพียงสนามบินเดียว เพราะทุกวันนี้นักท่องเที่ยวยังคงงงกับเจ้า BKK หรือ DMK พากันตกเครื่องเป็นแถว หลายคนพากันสาปแช่งเจ้าของความคิดที่สร้างแอร์พอรต์ลิ๊งค์เชื่อมระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิกับในเมืองเพียงแค่ราชเทวี ก็ตอนนั้นเขาไม่มีความคิดจะไปปลุกดอนเมืองกลับมาใช้งานอีกแล้วนะซิ แค่ระยะทางแค่นี้จนป่านนี้ยังไม่เสร็จเลยครับ หากต่อไปถึงดอนเมืองไม่ทราบจะทันใช้ชาติหน้าหรือเปล่า? เห็นแอร์เอเซียเขาหรือยังว่ารวยเพียงใด มีเคื่องบินรุ่นใหม่มาให้ได้นั่งกันแล้วครับ ส่วนนกแอร์เราไปเช่าเครื่องอังกฤษมาได้เพียง2ลำ แล้วทนทู่ซี้ใช้เครื่องเก่าที่เอามาจากการบินไทยซึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนกระจกหน้าร้าวจนกัปตันไม่ยอมบินต่อ กลับไปรวมกันที่สุวรรณภูมิเถอะ ที่ว่าการจราจรคับคั่งก็เพราะความไม่เป็นงานของการท่าฯจัดลำดับเครื่องบินขึ้น-ลงนะซิ
สุดสัปดาห์นี้หลังจากที่รอคอยมานานชาวเชียงใหม่ก็จะได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ตังเก็งเรื่องหนึ่งบนเวทีออสการ์ปีนี้ถึง 7 สาขา ATONEMENT จากการแสดงจากสาวเซ็กซี่ เคียร่า ไนท์ลลีย์ แต่อาจจะด้วยเนื้อหาที่ไม่สามารถบีบน้ำตาผู้ชมเลยรับออสการ์ไปเพียง1คือ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยมเท่านั้นเอง...สวัสดีครับ