วันที่15พ.ย.ของทุกปีผมมักจะมีการฉลองวันคล้ายวันเกิดของตัวเองแต่ปีนี้ึ่ค่อนข้างจะพิเศษกว่าปีที่ผ่านมาเพราะผมเกิดครบ5รอบหรือ60ปี โดยที่ปีนี้ภรรยาและลูกๆเขาช่วยกันจัดงานโดยให้เซอร์ไพรซ์และปีนี้ผมก็คิดจะให้งานเล็กลง แต่ท้ายที่สุดบรรดาแขกเหรื่อพากันมาอย่างเนืองแน่นเช่นเดิม เผลอๆคนเราอายุเข้า60บางครั้งทำให้ตัวเองมีความรู้สึกว่าแก่ลง ลูกๆก็เรียบกันจบแล้ว กลัมมากันหมดจากนิวซีแลนด์ ลูกสาวคนโตเขาชอบบริการจึงหันไปทำโรงแรมเล็กๆ15ห้องที่กทม.ปรากฏว่าโชคดีทำเลดีจึงทำให้ห้องพักเต็มแทบทุกวัน ได้รางวัลโรงแรมยอดเยี่ยมจากเว็บไวด์TRIPVISOR มาก็หลายปี ลูกชายคนกลางก็ยังเรียนเอแบคอีกไม่นานก็จะจบ ส่วนลูกสาวคนเล็กจบการดีไซน์จากนิวซีแลนด์อีกหน่อยคงมีโอกาสออกแบบลายผ้าสวยๆของผ้าไทยสู่ต่างชาติ คนเป็นพ่อก็สบายใจขึ้นลูกเต้าก็เดินในทางที่ดีไม่ข้องแวะยาเสพติดเพราะตั้งแต่เด็กๆผมก็บอกพวกเขาว่าผมเปิดอิสระใครอยากเลือกทางเดินแบบไหนก็ให้พวกเขาตัิดสินกันเองส่วนทางด้านการเงินนั้นเรามีอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา ขอบคุณสำหรับภรรยาที่อยู่ร่วมกันมาถึง37ปีถึงจะมีทุกข์มีสุขกันบ้างแต่ด้วยความเข้าใจของแกจึงทำให้เราได้อยู่กันมากว่าครึ่งชีวิตของเราทั้ง2คน อีกงานที่ผ่านเข้ามาคือวันที่23พ.ย.ซึ่งสำคัญมากกับชีวิตผมคือการที่ขึ้นมาทำกิจการที่นี่โดยมีการเปิดตัว วิสต้า ในโลกนี้ในนามของ โรงแรมวิสต้า ณ คุ้มแก้วพาเลซที่มีห้องพักถึง60ห้องก่อนที่จะได้เปิดโรงภาพยนตร์แห่งแรกในเดือนมีนาคมปีถัดมา วิสต้า เกิดขึ้นมาได้ด้วยการสนับสนุนของชาวเชียงใหม่โดยเฉพาะด้านโรงภาพยนตร์ซึ่งวิสต้าเกิดจากความรักในหนังของผม อยากให้คนที่นี่่ที่รักหนังได้ดูหนังที่อาจจะไม่เชิงพาณิชย์โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกำไร ทำให้ราคาค่าชมของเราอาจจะค่อนข้างถูกหากเทียบกับรายอื่นๆที่เข้ามา ระยะหลังๆหากคุณรักหนังจริงคุณจะต้องยอมรับว่าโรงหนังของเราเดินไปในทางของคนที่อยากดูหนังจริงๆไม่คำนึงถึงความหรูหราในโรง