ในที่สุดผมก็ได้มีโอกาสดูภาคต่อของ1ในเอ็กซ์เม็น นั่นคือ วูฟเวอรีน ที่มีดาราออสเตรเลียอย่างฮิวส์ แจ็คแมนมารับบทดั่งเดิม ในภาคนี้เอาจุดขายมาที่ ญี่ปุ่น ที่คาดว่าทางการญีุ่่ปุ่นเองก็อยากให้หนังมาถ่ายทำในประเทศของเขาที่ได้ประสบภัยธรรมชาติไม่ว่าสึนามิหรือแผ่นดินไหวทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างน่าใจหายเพราะแต่ก่อนไม่ว่านักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่หรือไต้หวันหรือแม้แต่ไทยก็อยากไปเที่ยว แต่ก็อีกนั่นแหละจะโทษเหตุการณ์ทั้ง2ที่กล่าวไปข้างต้นก็ไม่ได้เพราะพิธีรีตรองการเข้าประเทศของเขาค่อนข้างเข้มงวดทำเอาคนไทยเองก็ไม่อยากไปเพราะต้องไปขอวีซ่าทำให้เสียเวลาพอสมควรและอาจไม่ได้ซึ่งหากเป็นสาวๆยิ่งมีโอกาสถูกปฏิเสธค่อนข้างมาก แต่ทำไงได้ในเมื่อญี่ปุ่นดันไปทะเลาะไม่ว่าจีนหรือไต้หวันเรื่องดินแดนเล่นเอาทัวร์จีนหรือไต้หวันหันมาเที่ยวไทยหรือมาเลย์มากขึ้น นอกจากการอนุญาตและให้ความสะดวกกับกองถ่ายทำหนังต่างประเทศค่อนข้างมากโดยเฉพาะอเมริกันยังไ้ด้ออกกฏใหม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวไทยที่จะไปท่องเที่ยวสามารถไปได้เลยไม่ต้องมีวีซ่า แต่ขอย้ำอาจจะเข้าไม่ได้เพราะทางตม.เขาก็คงต้องเข้มงวดมากขั้น ยกเว้นไปกับกรุ๊ปทัวร์ หลังจากที่ปล่อยให้เกาหลีรับเนื้อๆจากนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศไปใช้จ่ายในประเทศเขามาหลายปีแล้วคราวนี้เป็นทีของญี่ปุ่นบ้างอีกทั้งยังมีการให้สายการบินแบบโลซ์คอสต์บินเข้าแบบไม่ยั้งช่วยกิจการโรงแรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสไปมากขึ้น ผมถึงขอชมว่ารัฐบาลญีุ่ปุ่นฉลาดจริงๆครับ ขอกลับมาที่หนังเรื่อง WOLVERINE อีกครั้งในขณะที่หลายๆคนไม่อยากไปดูเพราะกลัวไม่รู้เรื่องเพราะไม่ได้ดูภาคแรกแต่อย่าตกใจครับการดำเนินเรื่องในภาคนี้ผมว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่เอาใจตลาดสุดๆเรียกว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนพันธ์แท้ก็สามารถดูได้แบบสนิทใจ แน่นอนความอลังการของฉากและเอ็ฟเฟ็คไม่ต้องกล่าวถึงเพราะงบไม่อั้นเพื่อนำไปดูภาคต่อของ เอ็กซ์เม็น ในปลายปีอีกครั้ง นานแล้วผมไม่ได้ไปญี่ปุ่น เห็นบรรดาฉากที่เขาไปถ่ายมันช่างยั่วยวนผมเสียนี่กระไร สมัยก่อนผมมักจะเดินทางไปญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อย แต่ระยะหลังทั้งงานและความรับผิดชอบมากขึ้นทำเอาไม่มีเวลาเดินทางไป ต้องขอชมว่าหนังทำให้สุดยอดอีกเรื่องของซัมเมอร์นี้ ในขณะที่หนังภาคต่อของหนังหลายๆเรื่งที่ทำออกมาเจ๊๊ง แต่ดูเหมือนหนังภาคนี้ทำให้น่าชมน่าติดตามและสะใจคนดู และแน่นอนว่าต้องมีภาคต่อมาให้เราได้ชมเฉพาะซีรี่ย์ WOLVERINE เตรียมตังค์ได้เลยครับ