อยากขอบคุณชาวเชียงใหม่สักล้านครั้งที่ทำให้ วิสต้า มีวันนี้ได้เพราะในวันที่24พ.ย.นี้เราจะมีอายุครบ22ปี และจะย่างเข้าสู่ปีที่23 ส่วนโรงหนังจะครบในวันที่23ม.ค.ปีหน้า จากคนที่ชอบหนัง รักหนังได้มีโอกาสทำโรงหนังมันก็สุดยอดแล้วครับ นี่ทำมาถึง23ปียิ่งงงเข้าไปใหญ่เพราะครอบครัวผมไม่มีใครอยู่ในวงการนี้มาก่อน ผมจำได้ว่าก่อนที่จะมาทำโรงหนังที่นี่ผมได้เดินเข้าไปขอเดอะมอลล์ ทำโรงหนังเขาปฎิเสธ คงกลัวอ่อนประสบการณ์เดี๋ยวไปเจ๊งที่ทำให้ศูนย์เขาเจ๊งตาม โชคดีที่มาพบกับคุณเพิ่มพล เชยอรุณ ที่ก่อตั้งสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์มาด้วยกัน เขาเห็นว่าเรารักหนังจริงจึงให้1โรงบนกาดสวนแก้ว จึงสมใจอยาก แต่กว่าโรงจะเสร็จเราก็เปิดโรงแรมนำหน้าและโรงภาพยนตร์เจริญเมืองอีก2โรงไปแล้ว ส่วนคุณเพิ่มพลก็โดนยิงเสียชีวิตก่อนหน้า ด้วยเป็นคนเดินทางบ่อยๆคิดอยากทำโรงแรมเล็กๆคล้ายสวิสเซอรืแลนด์ ทำงานและบริหารเอง แต่กลับกลายว่าโรงแรมเรามีถึง60ห้อง จึงต้องอาศัยพนักงานที่ส่วนใหญ่ก็คือคนเชียงใหม่มาร่วมทำงานโรงแรมและโรงหนังกัน จนป่านนี้คนที่มาทำคนแรกก็ยังทำงานอยู่กับเรา ถึงจะมีอายุมากแต่แกผูกพันไม่อยากเลี้ยงหลานที่บ้านมาทำงานประจำ และที่สำคัญเรามักจะเห็นคนกรุงเทพขึ้นมาทำค้าขายที่เชียงใหม่ทำไม่นานก็ต้องมีอันพับเสื้อผ้ากลับกรุงเทพ ทั้งนี้เพราะเขาไม่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีคนล้านนาซึ่งหากเขาเห็นแล้วว่าคนที่ขึ้นมามิใช่เพื่อมากอบโกยผลประโยชน์เพียงข้างเดียว เขาก็จะช่วยกันเมตตา เช่นวิสต้าของเราที่ขึ้นมาทำก้เพราะรักในหนังอยากเห็นโรงหนังที่นี่พัฒนาเท่าเทียมเมืองหลวง และในที่สุดอีกไม่ถึงปีเชียงใหม่ก็จะมีโรงหนังจากเครือใหญ่ๆเช่น SF ขึ้นมาทำแข่งกับเครือเมเจอร์ที่ขึ้นมานานแล้ว แต่เรื่องราคาค่าดูผมไม่รับรองว่าจะถูกเหมือนเรา เพราะจะว่าไปเราทำโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เราถึงได้อยู่มาจนป่านนี้กับค่าดูที่อาจจะเรียกว่าถูกที่สุดในประเทศไทยปัจจุบันนี้ก็ได้้ เราอาจพอมีกำไรเลี้ยงลูกน้องให้มีพอกินพอใช้ก็พอใจแล้วครับ ดังนั้นค่าจ้างเราอาจจะถูกกว่าเมเจอร์มากพอควร แต่พนักงานทุกคนมีความสุขซึ่งผมว่าสุดยอดแล้วครับ กับการมีเงินมากมายแต่หาความสุขไม่ได้ จะมีไปทำไมจริงไหมครับ? ท้ายที่สุดขอบคุณอีกครั้งชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่เมตตาให้การสนับสนุนเราด้วยดีเสมอมา ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ก็ตาม เราจะพยายามยืนหยัดอยู่กับท่านตลอดไป+ สวัสดีครับ