58ปีของชายที่ชื่อ "ทอมมี่" ทุกวันที่15พ.ย.ของทุกปีสิ่งที่ผมลืมตาขึ้นมาตอนเช้าก็คือการคิดถึงคุณพ่อและคุณแม่ผม ซึ่งท่านได้จากไปหมดแล้ว เพราะหากไม่มีท่านผมคงไม่ได้มีโอกาสเกิดมาในโลกนี้ และเติบโตจนป่านนี้ ผมเองจบการศึกษามาก็ไม่ได้มีปริญญาสักใบเพราะระยะเวลาในการเรียนนั้นน้อยมากเป็นลูกชายคนเดียวเพียงในบ้านมีแต่พี่สาว ซึ่งธรรมเนียมจีนลูกสาวแต่งออก มีก็แต่ลูกชายที่ต้องสืบสกุล กิจการใดๆลูกชายต้องเป็นคนสานต่อดังนั้นการศึกษาที่ผมได้รับในระยะหลังคือการไปอบรมกับบรรดาสมาคมต่างๆ และที่ภูมิใจที่สุดคือการได้รับเกียรติให้เป็นกรรมการส่งเสริมของมหาวิทยาลัยพายัพ ทำให้ผมปีหนึ่งมีโอกาสใส่เสื้อครุยกับเขาในพิธีแจกปริญญาให้กับนักเรียนที่นั่น โชคดีที่บ้านผมมีฐานที่มั่นคงจึงทำให้ผมได้มีโอกาสทำอะไรอะไรที่ผมฝัน เช่นชอบดูหนังก็ได้เป็นผู้อำนวยการสร้างหนัง อยากมีโรงหนังก็ได้มี แถมมีมากจนเหนื่อยในช่วงหนึ่ง มีโรงถึง14โรงทั้งหมดในเชียงใหม่ แต่ด้วยใจรักในการตลาดจึงทำให้ผมได้นำการตลาดมาช่วยปลุกกระแสให้คนเชียงใหม่โดยเฉพาะวัยรุ่นได้หันมาดูหนังในโรงกันมากขึ้น เอาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้มาเป็นจุดแข็งของเรา ผมเคยใฝ่ฝันอยากทำการตลาดให้กิจการในเครือ KSL ของผมแต่ในขณะนั้นประธานบริษัทยังเป็นคนสมัยก่อน ทำไมของเราขายดีอยู่แล้วโดยเฉพาะ ชูรส ทำไมต้องไปเสียเงินค่าโฆษณา ส่งเสริมการขายผมจึงถูกส่งให้เป็นพนักงานจัดซื้อ ซื้อของแทบทุกอย่างให้กับโรงงานน้ำตาลในเครือที่สมัยนั้นมากว่า10โรง เป็นเวลากว่า30ปีมาเมื่อ8-9ปีที่ผ่านมาประธานบริษัทซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่เห็นว่าผมชอบการตลาดจึงผลักดันให้มาดูแลบริษัทราชาชูรสดูแลการขายทั้งหมด นั่นคือที่มาของการก้าวสู่ความฝันที่เป็นจริงอีกครั้งผมทุ่มเทให้กับมันอย่างมากมาย อีกครั้งที่โชคอาจเข้าข้างผมทำให้ผลประกอบการตั้งแต่ที่ผมมารับงานจนปัจจุบันไม่มีการขาดทุน แถมมีอยู่2-3ปีทีผ่านมาที่เรามีกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ44ปีที่ราชาชูรสก่อตั้งขึ้นมาในประเทศไทย ที่เอามาเล่าสู่กันฟังนี้มิใช่ว่าจะมาอวดเก่งว่าทำได้สุดยอดจากฝีมือ แต่ผมว่าที่ผมประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากลูกน้องทีมขายซึ่งแต่ก่อนมีอยู่กันถึง11ชีวิต ทุกวันนี้มีเพียง5ชีวิต เราทำงานกันเป็นทีม ผ่านพ้นความลำบากมาก็เยอะเพราะเอ็มดีของเราเป็นคนใต้หวันแถมเป็นนักการบัญชี ดังนั้นเรื่องการขาย/การตลาดไม่เคยรู้เรื่องและไม่พยายามรับรู้เสียอีก ถามผมว่าอีก2ปีจะ60คิดจะเกษียณไหม? ที่บริษัทผมระดับผู้บริหารส่วนใหญ่ไม่มีเกษียณครับ ทำไปจนทำไม่ไหว มีหลายคนที่อายุขึ้นต้นด้วยเลข7ท่านก็ยังทำงานอยู่ แถมทำได้ดีเสียด้วย คนเราหากอยากทำงานให้สำเร็จต้องทำด้วยใจรักครับ หลังจากนั้นก็ต้องมีความศรัทธาทั้งในตัวผู้บริหาร/ในตัวองค์กร ผมคนหนึ่งละครับที่ต้องยอมรับว่าศรัทธาในตัวCEOในตัวKSL จึงได้ทำงานมาทุกวันนี้...ขอบคุณครับ
***ขอขอบคุณ นิตยสาร อิมเมจ ที่ให้เกียรติมาสัมภาษณ์และลงตีพิมพ์ในหนังสือฉบับเดือนพ.ย.2554นี้***
11/17/11
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment