กาลเวลาผ่านไปรวดเร็วเหมือนโกหกครับ เผลอแป็ปเดียวผมขึ้นมาทำธุระกิจโรงภาพยนตร์ที่เชียงใหม่เกือบ 19 ปีแล้ว ผมค่อนข้างจะโชคดีในชีวิตเพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝัน นับแต่การไปเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งผมถูกปลูกฝังในการดูจากสมัยยังเด็กแม่จะพาไปดูหนังทุกวันหยุด มาจนกระทั่งได้มาทำโรงที่กาดสวนแก้วเชียงใหม่ซึ่งอาจจะเพราะโชคด้วย ผมเข้ามาหลังจากที่ตลาดวีดีโอเริ่มถดถอย หนังกลับมาบูมอีกจนทำให้ผู้ประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ท้องถิ่นต้องระเห็จระเหไป จนทำให้ครั้งหนึ่งวิสต้ามีโรงภาพยนตร์ให้บริหารถึง 14 โรง เรียกว่าเหมาหมดในเชียงใหม่ หรือแม้แต่การเป็นผู้จัดการฝ่ายขายราชาชูรส เพราะชอบในด้านนี้และด้านการตลาด แต่กว่างานนี้จะสำเร็จก็เวลาผ่านไปกับการเป็นฝ่ายจัดซื้อให้โรงงานน้ำตาลในเครือถึง 30 ปี อย่าเพิ่งอิจฉาผมเลยนะครับ กว่าจะทำงานด้านการขายจนผู้ใหญ่ไว้ใจก็ใช้เวลาถึง 6 ปี ระหว่างที่ทำโรงหนังมาสังเกตุได้ว่าตั้งแต่มีการแตกแยกของสังคมเมืองไทยเราเมื่อหลายปีก่อน ธรรมดาเวลาก่อนหนังฉายจะมีการยืนตรงเพื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีของในหลวงเรา ผู้ชมมักจะยินดียืนกันโดยพร้อมเพรียงกัน มาสมัยนี้มีวัยรุ่นหลายคนมักจะไม่ค่อยอยากยืน ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพราะปัจจุบันต้องยอมรับตรงๆว่าสถาบันสูงสุดของเราซึ่งก็คือพระเจ้าแผ่นดิน ในสายตาของคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะเห็นถึงความสำคัญของพระองค์ว่าท่านได้ทรงทุ่มเททั้งพระวรกาย พระปัญญา พระปรีชาสามารถในการช่วยให้ปวงชนชาวไทยได้ลืมตาอ้าปากได้ โครงการในพระราชดำริมากมายล้วนแต่ด้วยพระปรีชาสามารถของท่าน นอกจากการที่คนรุ่นใหม่จะไม่ตระหนักแล้วยังมีการลบหลู่ท่านต่างๆนานาลำพังวัยรุ่นแตกแถวไม่กี่คนถือว่าคนเราเกิดมาย่อมต้องมีเสียงครหานินทา แต่นี่มีขบวนการระดับชาติจ้องล้มล้างราชบัลลังก์ ดังที่เราได้เห็นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จึงทำให้ในหลวงท่านทรงประชวรแถมยังได้ิยินเสียงกระซิบมาว่าบางครั้งท่านถึงกับร้องไห้ที่ปวงประชาของท่านตอนนี้ถึงกับมีการแยกสีแยกพวกจนบ้านเมืองวุ่นวาย ผมว่าทางที่ดีรัฐบาลในฐานะที่มีสื่อต่างๆอยู่ในมือไม่ว่าสถานีโทรทัศน์/วิทยุน่าจะทำหนังเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจมาเผยแพร่เสมอๆ อีกทั้งสมัยนี้เทคโนโลยีสูงสามารถทำอะไรก็ได้ให้เห็นภาพเสียงที่ชัดเจน ดูอย่างหนังโฆษณาเรื่องหนึ่งที่ตอนนี้โด่งดังในเน็ตและทีวีเสรีอย่าง เอเอสทีวี "ขอโทษประเทศไทย" ที่โทรทัศน์อย่างช่อง 3,5,7,9,11 ไม่ยอมให้ออกอากาศ หากใครได้ดูผมว่าต้องปรมมือให้กับคนทำ ที่อาศัยเวลาเพียงไม่กี่นาทีสามารถสื่อถึงคนดูได้มากมายหรือย่างการที่ดาราชายที่ได้รับรางวัลออกมาพูดเรื่อง พ่อ ก็มีอันต้องโดนตำรวจเรียกไปแจ้งข้อกล่าวหาที่นักร้องลูกทุ่งท่านหนึ่งไปร้องว่าหมิ่นในหลวง แล้วอย่างนี้นับวันวัยรุ่นมันก็จะลืมสถาบันสูงสุดของเราไป ขอภาวนาอย่าให้ไทยเราต้องเป็นเหมือนหลายๆประเทศที่แต่ก่อนมีกษัตริย์ ปัจจุบันไม่มีเพราะมีประชาชนของชาตินั้นพากันยีดอำนาจ บางประเทศถึงกับต้องขออภัยกับการกระทำครั้งนั้นโหยหาอยากพัฒนาสถาบันนี้อีก แต่ก็ไม่สามารถทำได้แล้ว รัสเซีย ที่สังหารหมู่เชื้อพระวงศ์ในสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัส มาบัดนี้ถึงกับนำกระดูกของท่านกลับมามอสโครว์ฝัง...สวัสดีครับ