ผมจำได้ว่าเมื่อสมัยเด็กๆหรือประมาณ30กว่าปีที่แล้วเวลาใครจะไปต่างประเทศทีต้องมีคนไปส่งที่สนามบินกัน ยิ่งหากไปเรียนต่อต่างประเทศยิ่งแล้วใหญ่ จะมีลูกผู้หลักผู้ใหญ่ ไปส่งพร้อมพวงมาลัยเพื่ออวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ บ้างก็ถึงกับน้ำตานองหน้า แต่เมื่อเวลาผ่านไป น่านฟ้าเสรี ใครใคร่บินก็สามารถซื้อตั๋วในอินเตอร์เน็ต โดยดูว่าสายการบินไหนให้ราคาถูกกว่า เหมือนกับสโลแกนของ แอร์เอเซีย ที่ว่า "ไม่ว่าใครก็บินได้" ดังนั้น การเดินทางในสมัยนี้ บางครั้งเห็นการแต่งกายของผู้โดยสารนึกว่าแกอยู่กับบ้าน กางเกงขาสั้นเสื้อยืดตัวเป็นเสร็จสรรพ ผิดกับสมัยก่อนเวลาจะไปต่างประเทศทีต้องรีบไปตัดเสื้อนอก ทั้งที่บางแห่งที่จะไปร้อนตับแลบ ราคาเที่ยวบินแต่ละสายยิ่งบรรดาโลว์คอสต์เช่น แอร์เอเซีย/เจ๊ทสตาร์/ไทเกอร์ บางทีราคาไปสิงคโปร์ยังถูกกว่ามาเชียงใหม่เสียด้วยซ้ำ อีกทั้งในหนึ่งวันมีเวลาให้เลือกมากมายใครสะดวกเวลาไหนก็สบาย ยิ่งบินในช่วงดึกราคาก็ยิ่งถูกลงผมจึงอาศัยอานิสงนี้บินไปมา กทม-สิงคโปร์บ่อยๆ ซึ่งแต่ก่อนไปเดือนละครั้งเดี๋ยวนี้เวลาหายากก็ห่างๆไป มาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยราคาที่ถูกแสนถูกของ เจ๊ทสตาร์ ซึ่งเป็นสายการบินร่วมทุนของแควนตัสออสเตรเลียไป-กลับสิงคโปร์เพียง3พันกว่าบาทจึงทำให้ผมตัดสินใจซื้อเพื่อไปเดินเล่น/หาเพื่อนสิงคโปร์ เที่ยวนี้ที่ไปห่างจากเที่ยวก่อนเดือนกว่าๆ เริ่มแรกก็ต้องหัวเสียกับการต้องวิ่งไป มาเพื่อเปลี่ยนบัตรเดินทางรถไฟใต้ดินที่ผมซื้อไว้ใช้ เขาให้เอาไปเปลี่ยนใบใหม่ ดีนะที่ผมไปทันเพราะทีแรกเขาให้เอาไปแลกถึงวันที่7ต.ค.แต่ด้วยจำนวนคนที่มากเขาเลยต่ออายุไปถึง15ต.ค.มิเช่นนั้นตั๋วต้องทิ้งพร้อมเงินที่อยู่ในนั้น(ผมเป็นแบบเติมเงินครับ) ทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์สุดแสนเงียบเหงา ทราบจากเพื่อนว่าเดี๋ยวนี้คนสิงคโปร์รัดเข็มขัด น้อยครั้งที่จะออกมาทานข้าวนอกบ้านกัน ข้าวของก็ซื้อแต่สิ่งของจำเป็น พวกของฟุ่มเฟือยเช่นทีวี/ตู้เย็น/แม้แต่โทรฯมือถือไม่จำเป็นไม่ซื้อใหม่ ถึงบอกว่าทั่วโลกเศรศฐกิจยังไม่ดีขึ้น โรงแรมใหญ่ๆที่แต่ก่อนคืนหนึ่งเป็นหมื่นลดลงบางแห่งกว่า60%เสียด้วยซ้ำ เช่นโรงแรมที่ผมไปพัก ฟูลเลอร์ตัน แต่ก่อนเป็นไปรษณีย์กลางของเขา เขาเพิ่งจะปรับมาเป็นโรงแรมระดับ5ดาวเมื่อปี2002 วิวที่มองเห็นคือ มารีน่าเบย์ ที่ซึ่งกำลังก่อสร้างบ่อนคาสิโนแห่งแรกของเขา คาดว่าจะเปิดต้นปีหน้าครับ ห้องพักเป็นพันๆห้อง ไม่รู้ว่าจะไปหาใครมาพัก? อีกทั้งมิใช่เป็นคาสิโนแห่งเดียว เขาจะมีอีกแห่งบนเกาะเซ็นโตซ่าด้วยเช่นกัน ได้ยินว่าจะเปิดไล่้ๆกัน
มาเชียงใหม่เห็นใน นสพ.เชียงใหม่นิวส์มีโฆษณาว่าทุกวันพุธค่าดูหนังที่เมเจอร์เขาจะลดเหลือ 60 บาททุกที่นั่ง ก็ได้แต่ดีใจกับคนเชียงใหม่ที่จะได้มีโอกาสไปดูหนังท่ามกลางบรรยากาศหรูๆในราคาที่แต่ก่อนปาเข้าไปถึง120-140 ดังนั้นวันพุธอย่าลืมไปอุดหนุนเขาหน่อยละกัน แต่ไม่ทราบว่ามีกติกาอื่นๆอีกไหม ตามสไตล์เขา ที่วิสต้ายัง 70-90 เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนมาหลายสิบปีแล้ว...สวัสดีครับ
10/15/09
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 comment:
สวัสดีค่ะคุณทอมมี
ดิฉันชื่อ รัตน์ ค่ะ ตอนนี้กำลังเรียนภาษาอยู่ที่ San Francisco, USA มีแผนว่าจะกลับประเทศไทย กลางเดือนหน้า
ชอบดูหนังมาก โดยเฉพาะนอกกระแส
จึงหาข้อมูลโรงหนังที่เชียงใหม่ พอดีอ่านเจอในกระทู้ว่าคุณทอมมี่ก็ชอบนำหนังนอกกระแสมาฉาย เลยรู้สึกว่าอยากจะเชียร์คุณทอมมี่ทำวิสต้าให้เป็น house หรือ ลิโด้ ของเชียงใหม่น่ะค่ะ เลยถือโอกาสนี้ขอสมัครงานที่โรงหนังวิสต้าซะเลย
ถ้าคุณทอมมี่สนใจ หรือไม่สนใจยังงัยรบกวนตอบกลับรัตน์ที่ e-mail นี้นะคะ rudnaka@hotmail.com
ขอบคุณค่ะ
รัตน์
P.S. อาจจะดูเหมือนว่ารัตน์บ้าบอ มาสมัครงานใน comment box แต่จริงๆแล้วไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากการอยากทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบเท่านั้นแหละค่ะ
Post a Comment