ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเมืองไทยเรามีข่าวดีๆอยู่หลายข่าว เริ่มจาการคลอดลูกของเจ้าหมีแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ของเรา หลังจากที่เพียรพยายามถึงขั้นหาหนังเอ็กซ์ให้แพนด้าดูแต่ไม่เป็นผล มาเป็นผลในช่วงนี้โดยที่เจ้าหน้าที่เองก็ไม่มีใครทราบ จนกระทั่งมันคลอดออกมา น่ารักดีนะครับเห็นรูปแล้ว ดูๆเหมือนหนูตัวเล็กๆมากกว่า ข่าวต่อมาคงหนีไม่พ้นตลาดหุ้นบ้านเราที่ขึ้นเอาขึ้นเอา ทำให้หลายคนใจชื้นว่าเศรษฐกิจบ้านเรากำลังโงหัวขึ้น พ้นจากจุดต่ำสุดแล้ว แต่อย่าเพิ่งดีใจไปครับบรรดานักเล่นทั้งหลาย ที่ขึ้นนะเพราะดอกเบี้ยเงินฝากมันน้อยเสียเหลือเกิน มาเล่นหุ้นตอนขาลงเวลามันขึ้นแบบที่ผ่านมานี้ขายทำกำไรไม่ดีหรือ? คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ดังนั้นหากสังเกตุดีๆจะเห็นว่าทันขึ้นไปไม่กี่วันมันก็ตกลง ในความเห็นผมตราบใดที่สหรัฐฯยังแย่แบบนี้ทั่วโลกจะฟื้นคงยากครับ อย่างน้อยๆน่าจะต้องรออีกสักปีสองปี ระหว่างนี้ใครสายป่านยาวรอดแน่ๆ ดูอย่างธุรกิจโรงแรมเชียงใหม่ หันไปไหนก็ต่างโอดครวญหานักท่องเที่ยวยาก บรรดาโรงแรมขนาดใหญ่ๆพากันเห็นใจพนักงานในการลดเงินเดือนลดวันทำงานเป็นแถว ทั้งนี้เพื่อความอยู่รอดของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ตอนนี้ใครผ่อนกับบรรดาเครดิตการ์ดคงกลุ้มใจเดือนๆจะหาเงินที่ไหนไปคืนเขา ถึงเขาจะเมตตาลดดอกเบี้ยเครดิตการ์ดจาก20เป็น18ต่อปีก็เถอะ ข่าวดีอีกข่าวที่อาจจะเวอร์ๆไปสักนิดก็คือการเปิดเที่ยวบินของสายการบินเศรษฐีอาหรับ สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ นำเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดใหญ่ที่สุดบรรทุกผู้โดยสารได้มากที่สุด แอร์บัส380 มาบริการเส้นทาง กรุงเทพ-ดูไบ ถือเป็นสายการบินพานิชย์เจ้าแรกที่ไว้เนื้อเชื่อใจสนามบินสุวรรณภูมิทำเอาเจ้าตลาดอย่างสิงคโปร์แอร์ไลนส์อ้าปากค้าง เพราะช่วงนี้เขามีแต่ลดเที่ยวบินแต่นี่ดันเพิ่ม เห็นว่าเอมิเรตเขาในชั้นหนึ่งมีให้อาบน้ำเหมือนอยู่กับบ้านเชียวนา เดี๋ยวรอเมื่อไหร่เขาบริการไปถึงนิวซีแลนด์แล้วจะยอมทุบกระปุกไปใช้บริการดูแบบที่เคยใช้มาครั้งหนึ่งเมื่อปี2550กับสิงคโปร์ฯเที่ยวบินสิงคโปร์-ซิดนีย์ เที่ยวละแสนกว่าบาทเอง? ยอมรับว่าแอร์บัส380นี้ดีจริงๆ
และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสขับรถไปเยี่ยมลูกค้ารายใหญ่ของราชาชูรสที่แม่สาย เชียงราย ไม่ได้ไปมาหลายปีได้ยินว่าถนนดีแล้ว จึงคิดว่าระยะทางเพียง180กิโลไม่น่าจะใช้เวลานาน แต่กับสภาพอากาศฝนตกตลอดทาง ทางขึ้นลงเขาจึงทำให้ขับยาก ใช้เวลากว่า2ชั่วโมงครึ่งถึงจะถึง ใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมงจึงจะถึงแม่สาย ต้องบอกว่า 3-4ปีที่ไม้ได้ไปมาอะไรอะไรเปลี่ยนแปลงไปหมด เดี๋ยวนี้นอกเหนือจากสะพานเล็กๆที่เราเคยข้ามไปเดินเล่นฝั่งพม่า เขามีสะพานใหม่ซึ่งหนักไปทางรับรถขนส่งน้อยใหญ่จากฝั่งไทยเพื่อไปส่งของที่พม่าหรือเลยไปถึงจีนที่ขันรถเพลินๆ5ชั่วโมงก็ถึงแล้ว
ผมยังมีโอกาสแวะเยี่ยมชม วัดร่องขุ่น ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ยอมรับว่าสวยจริงๆครับกับสีขาวรวมถึงกระจกที่ประดับอยู่ ผมไปถึงตอนเที่ยงแดดแรงๆ ยิ่งสวยใหญ่เลยครับ ถ่ายรูปสนุกมือไปเลยครับ เลยขอนำภาพมาฝากชมครับ...สวัสดี