81 st. ACADEMY AWARDS ...and the winners are...
หลังจากที่วาไรตี้สัปดาห์ก่อนผมได้เอ่ยถึงหนังที่ไปถ่ายทำในอินเดีย แต่สร้างโดยฝรั่งชาวอังกฤษ SLUMDOG MILLIONAIRE ซึ่งคนไทยหากไม่ใช่คอหนังจริงๆอาจจะไม่รู้จักมาก่อน ผมโชคดีที่ได้ไปซื้อแผ่นดีวีดีมาดูซึ่ง คมชัดมากและมีการพากษ์ไทยอีกต่างหาก ถูกใจเหลือเกินและทำนายว่าหนังน่าจะได้รับรางวัลใหญ่ๆในเวทีประกวดออสการ์ปีนี้ และในที่สุดจากฝีมือกำกับของผู้กำกับชาวอังกฤษอย่าง แดนนี่ บอยล์ รวมไปถึงทีมงานเกือบจะ100%เป็นชาวอังกฤษเช่นกัน อาศัยก็แต่เพียงบทที่เขียนโดยคนอินเดียและฉากหลังของอินเดียคว้ารางวัลออสการ์ไปถึง 8 รางวัลจากการที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง 10รางวัล แถมรางวัลที่ได้เป็นรางวัลใหญ่ๆแทบทั้งสิ้นไม่ว่า ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม/ผู้กำกับยอดเยี่ยม/บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม/ถ่ายภาพยอดเยี่ยมฯลฯ ทำเอาหนังฟอร์มยักษ์หลายๆเรื่องรัปประทานแห้วไปเป็นแถวเช่น BENJAMIN BUTTON ได้ดาราหนุ่มหล่อไฟแรงอย่างแบรด์ พิทท์เล่นก็เถอะ หนังพี่แบรดถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 13 รางวัลแต่หิ้วรางวัลเล็กๆอาจจะเรียกว่ารางวัลปลอบใจก็ได้ 3 รางวัล และอดที่จะกล่าวไม่ได้ก็คือดารานำหญิงซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน น้องเคจ วินสเลจ หรือ น้องโรส จากไททานิค ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนมีทายาทถึง 2 คนแล้ว ปีนี้เป็นปีของเธอจริงๆครับ เพราะไม่ว่าเวทีไหนๆเธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงแถมหอบรางวัลติดมือไปฝากลูกๆของเธอแบบไม่เสียเที่ยว สำหรับหนังที่เธอได้นั้น THE READER ยังไม่มีโอกาสได้ดูแต่เชื่อแน่ว่าผมต้องหาวิธีดูให้ได้เร็วๆวันนี้ เขาว่าเธอเล่นได้เด็ดขาดจริงๆกับบทวัวแก่กินหญ้าอ่อนของเธอ แต่รางวัลดารานำชายกลับไปได้กับ ฌอน เพนน์ จากเรื่อง MILK ซึ่งน้อยคนนักในไทยจะรู้ว่าเนื้อเรื่องเป็นเช่นไร พี่แบรดผมหน้าจ๋อยเลยเวลาเขาประกาศชื่อเพราะคิดว่าตัวเองทุ่มเทให้กับบท BUTTONS แบบเต็มร้อยแล้ว ส่วนบทดาราสมทบชายไม่พลาดกับ อีท เลจเจอร์ ผู้ล่วงลับกับบทโจ๊กเกอร์ในมนุษย์คาวตอนใหม่ล่าสุด THE DARK KNIGHT สททบหญิงได้กับ เพเนโลเป ครูซ อดีตหวานใจทอม ครุ๊ยซ์ (ชั่วขณะ) เธอเล่นหนังของวู๊ดดี้ แอลเลน VICKY CRISTINA BARCELONA ในบทของเลสเบี้ยนผมเองได้ดูแล้วรู้สึกเฉยๆ แต่ไม่ทราบไปเตะตากรรมการออสการ์ได้อย่างไร? ขอแสดงความยินดีกับชาวอินเดียทุกคนที่หลังจากคนต่างชาติที่ได้ดูหนัง SLUMDOG รู้จักอินเดียมากขึ้นและอยากไปเที่ยวมากขึ้น...สวัสดีครับ
2/26/09
2/21/09
เพิ่งเดินทางกลับจากนิวซีแลนด์ครับ เที่ยวนี้ไปส่งลูกสาวคนเล็กไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย เวลลิงตัน เมืองหลวงเขา ซึ่งอยู่ที่เกาะเหนือ นิวซีแลนด์มี2เกาะ ที่ผมมีบ้านอยู่เกาะใต้ครับ เพราะลูกสาวเขาชอบพวกดีไซน์ อาจจะคล้ายๆกับพ่อที่ชอบขีดๆเขียนๆ ทำวาไรตี้และโฆษณาตามตู้หน้าโรงฯก็ฝีมือผมเองครับ ทำมากว่า17ปีแล้ว แต่ยอมรับว่าสนุกดี เพราะทำอะไรที่ชอบ ไปเรียน4ปี ประชากรที่เมืองนั้นก็ใกล้เมืองที่ผมอยู่อาศัยราว3แสนคน แต่พื้นที่เล็กกว่าเพราะมีภูเขาทั้งสูงและเตี้ยมากมายทำให้พื้นที่ที่อยู่อาศัย เดินขึ้นเขาลงเขาจนเบื่อล่ะ แต่ที่สำคัญเป็นเมืองหลวงครับ อากาศกำลังจะเข้าฤดูใบไม้ร่วง เริ่มหนาวแล้ว และฝนมีตกบ้างแล้ว ตอนนี้ที่นั่นเหลือลูกสาวคนนี้คนเดียวครับ ลูกชายกำลังสอบเทียบที่ เอแบค กทม. ไปมาไม่กี่คืนเหมือนเดิมแต่โชคดีคนอยู่บ้านคนเดียวจึงมีเวลาดูหนังเข้าชิงออสการ์หลายเรื่อง เรื่องแรกที่รีบไปดู วัลคีรี่ ที่มีทอมครูซ เปลี่ยนลุคใหม่เป็นทหารนาซีตาเดียวอีกทั้งมือข้างเดียวอีกต่างหาก หนังดูเหมือนจะเข้าฉายในไทยแล้ว จากฝีมือผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ ที่เคยนำหนังมาฉายในเทศกาลหนังซึ่งผมเป็นตั้วโผใหญ่ BOI FILM FESTIVAL ตอนนั้นแกยังไม่ดังจนแกไปกำกับ THE USUAL SUSPECT แสนโด่งดังจากการหักมุมจบหนังดูแล้วเรียบๆน่าชวนนอนครับ เรื่องที่2ที่ดูจาการแสดงของปู่คลินท์ อีสวู๊ด GRAND TORINO แกแก่มากครับ แต่เนื้อเรื่องชวนติดตามดีครับ และเรื่องที่3 REVOLUTIONARY ROAD ดาราดังอย่าง ลีโอนาโด เดอคาปริโอ ประกบคู่กับขาเก่าอย่าง เคจ วินสเลจ เนื้อเรื่องแน่นอนว่าย่อมมีกลิ่นอายจากผู้กำกับ AMERICAN BEAUTY อย่างแซม เมนเดส แต่เนื้อหาดูเบาเมือนปุยนุ่น ถึงกระนั้นดาราอย่างเคจ วินสเลจได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงลูกโลกทองคำกับเขาด้วย...แต่เธอได้ดารานำหญิงลูกโลกทองคำจาก THE READER ที่อ่านเนื้อย่อแล้วอยากดู...เพราะชอบสาวแก่ครับ และเคจเองก็ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์เรื่องนี้เช่นกัน น่ากลัวครับ
เพราะอาจเป็นปีทองของแกก็ได้ นั่นคือหนัง3เรื่องที่ได้ชม แต่ยังมีหนังอีกเรื่องที่เป็นตัวเก็งรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปีนี้ SLUMDOG MILLIONARE ที่จนป่านนี้ยังไม่มีใครในไทยไปซื้อมาฉาย เพราะถือเป็นหนังนอกสายตา เรื่องนี้ได้ดูจากดีวีดีครับ หนังสนุกดีเอาใจตลาดวัยรุ่น แถมยังทำให้คนต่างชาติอยากไปดูสลัมที่นั่นจนมีการทำทัวร์ไปเที่ยวน่าอิจฉานะครับ น่ามาบ้านเราสลัมเยอะแยะ ผู้กำกับเรื่องนี้แทนที่จะเป็นอินเดียกลับเป็นชาวอังกฤษที่ชอบทำหนังเซอๆอย่าง TRANSPOTTING ที่ชื่อ แดนนี่ ดอย เขาบอกว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของหนังแบรด พิท BENJAMIN BUTTON ซึ่งผมยังไม่ได้ดูเพราะยาวกว่า3ชั่วโมง หากให้เดาบรรดาผู้ลงคะแนนไม่รังเกียจหนังแขกแล้วน่าจะได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ยิ่งได้ชมตอบจบแล้วนึกถึงบรรยากาศหนังแขกที่ผมดูตอนเด็กๆ...สวัสดีครับ
เพราะอาจเป็นปีทองของแกก็ได้ นั่นคือหนัง3เรื่องที่ได้ชม แต่ยังมีหนังอีกเรื่องที่เป็นตัวเก็งรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปีนี้ SLUMDOG MILLIONARE ที่จนป่านนี้ยังไม่มีใครในไทยไปซื้อมาฉาย เพราะถือเป็นหนังนอกสายตา เรื่องนี้ได้ดูจากดีวีดีครับ หนังสนุกดีเอาใจตลาดวัยรุ่น แถมยังทำให้คนต่างชาติอยากไปดูสลัมที่นั่นจนมีการทำทัวร์ไปเที่ยวน่าอิจฉานะครับ น่ามาบ้านเราสลัมเยอะแยะ ผู้กำกับเรื่องนี้แทนที่จะเป็นอินเดียกลับเป็นชาวอังกฤษที่ชอบทำหนังเซอๆอย่าง TRANSPOTTING ที่ชื่อ แดนนี่ ดอย เขาบอกว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของหนังแบรด พิท BENJAMIN BUTTON ซึ่งผมยังไม่ได้ดูเพราะยาวกว่า3ชั่วโมง หากให้เดาบรรดาผู้ลงคะแนนไม่รังเกียจหนังแขกแล้วน่าจะได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ยิ่งได้ชมตอบจบแล้วนึกถึงบรรยากาศหนังแขกที่ผมดูตอนเด็กๆ...สวัสดีครับ
2/13/09
สุขสันต์วันแห่งความรัก 2009
วันเสาร์ที่ 14 ก.พ. เป็นวันแห่งความรัก คาดว่าปีนี้คงจะมีการจัดงานกันมากมายเพราะตรงกับวันเสาร์ ส่วนใหญ่ผู้ที่จะไปฉลองมักจะเป็นบรรดาวัยรุ่น ทำให้เสียงกระซิบดังๆว่าคืนนั้นบรรดาโรงแรมม่านรูดจะขายดิบขายดีมีคนไปใช้บริการเยอาะ แต่กับคนวัยกลางคนอย่างผมมักจะคิดถึงลูกและครอบครัวซะมากกว่า เป็นประจำทุกปีที่ผมมักจะกล่าวผ่านทางวาไรตี้นี้ว่า วันแห่งความรักไม่น่าจะถือแค่วันเดียว น่าจะให้ทุกๆวันเป็นวันแห่งความรัก และความรักในที่นี้มิใช่สำหรับหนุ่มสาวเท่านั้นแต่กับพ่อแม่ลูกๆและครอบครัวย่อมมีความรักให้แก่กันได้ ไทยเรามีวันครอบครัวคือช่วงสงกรานต์แต่นั่นคือคนไทย แต่กับคนทั่วโลกวันวาเลนไทน์ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพวกเขาครับ ดอกกุหลาบมักจะขายดี ในช่วงที่ผมแตกวัยหนุ่มมีบางปีปาเข้าไปคอกร้อยกว่าบาท แต่ระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดีพ่อค้าแม่ขายขาดทุนกันเป็นแถว เลยทำให้ความฮิตในเรื่องดกอกุหลาบสดลดน้อยลง หันไปหาคอกกุหลาบที่ทำจากวัสดุอื่นที่สามารถเก็บได้นาน ขอให้ลูกค้าวิสต้าทุกท่านมีแต่ความสุขและแบ่งปันความรักให้กันและกัน แล้วอย่าลืมไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ด้วยล่ะ
เมื่อพูดถึงลูกและครอบครัวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเล่าเรื่องลูกๆให้ฟังกันอีกสักครั้ง ตอนนี้ลูกสาวคนโตอายุ 24 เข้าไปแล้วหลังจากที่มาฝึกงานที่โรงแรมแชงกรีล่าเชียงใหม่กว่า6เดือน ตอนนี้เดินทางกลับไปโรงเรียนการโรงแรมที่สวิสฯแล้วจะเรียนเป็นปีสุดท้ายครับ หลังจบคงจะได้มาช่วยพ่อทำโรงแรมที่เชียงใหม่และกรุงเทพฯ ยอมรับจริงๆว่ามีลูกสาว2คนลูกชาย1คน ลูกสาวน่ารักกว่าลูกชายเยอะครับ โดยเฉพาะลูกสาวคนโตที่ลูกค้าวิสต้าอาจจำเธอได้ช่วงที่เรามาเปิดโรงหนังใหม่ๆจะมีรูปเด็กใส่ชุดไทยยกมือไหว้คนดู เดี๋ยวนี้เธอเป็นสาวแล้วครับ ส่วนลูกชายคนที่2ชอบไปทางดนตรี เรียนที่นิวซีแลนด์มา3ปีชักเบื่อ อยากมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย ตอนนี้เตรียมตัวไปเรียนเอแบคในปีการศึกษาที่จะถึงนี้ครับ ส่วนลูกสาวคนเล็ก18ปีแล้วจบไฮสกูลที่นิวซีแลนด์ ชอบขีดๆเขียนๆเหมือนพ่อ เลยเลือกที่จะเรียต่อที่มหาลัยที่กรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงนิวซีแลนด์ครับในด้านดีไซน์ อีก4ปีจบ
เห็นเรื่องโอเน๊ต-เอเน๊ตเมืองไทยแล้วพาลปวดหัวแทนพ่อแม่คนไทยจริงๆครับ เพราะจะว่าไปเรื่องการศึกษานั้นแสนง่าย แต่ระบบราชการมันทำให้ต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากัน นอกจากจะเรียนธรรมดาที่โรงเรียนแล้วหลังเลิกเรียนยังต้องเรียนพิเศษกวดวิชา มิเช่นนั้นจะสู้เพื่อนไม่ได้ กว่าจะกลับถึงบ้านปาเข้าไปทุ่ม2ทุ่ม พักผ่อนหลับนอนแล้วตี5ตื่นแต่งตัวมาโรงเรียนอีก วันเสาร์/อาทิตย์แทนที่จะพักผ่อน ต้องไปขวนขวายเรียนพิเศษอีก เรียกว่าสัปดาห์ทั้งสัปดาห์ไม่มีเวลาว่างๆพักผ่อนหัวสมองเลย แถมเวลาจะจบไปต่อมหาวิทยาลัยก็ยังไม่วายต้องแก่งแย่งที่เรียนกันอีก คนไทยมัน60กว่าล้านคน ย่อมต้องมีการแข่งกันสูง ผิดกับนิวซีแลนด์ที่มีประชากรเพียง3-4ล้านคน และคนส่วนใหญ่หลังจากจบภาคบังคับไฮสกูลแล้วมักจะไปทำงานกัน น้อยมากที่จะต่อมหาวิทยาลัย นี่คือเหตุผลที่ลูกๆผมมันฉลาดหนีไปเรียนที่นั่นตั้งแต่เล็กๆและรู้ว่าสู้กับเขาไม่ได้ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งผมก็เหมือนกันตอนเด็กๆสอบตกทุกทีกับเจ้าตัวเลขต่างๆ แต่โชคดีมาชอบทางภาษาอังกฤษเลยไปนอกซะเลยครับ...สวัสดี
วันเสาร์ที่ 14 ก.พ. เป็นวันแห่งความรัก คาดว่าปีนี้คงจะมีการจัดงานกันมากมายเพราะตรงกับวันเสาร์ ส่วนใหญ่ผู้ที่จะไปฉลองมักจะเป็นบรรดาวัยรุ่น ทำให้เสียงกระซิบดังๆว่าคืนนั้นบรรดาโรงแรมม่านรูดจะขายดิบขายดีมีคนไปใช้บริการเยอาะ แต่กับคนวัยกลางคนอย่างผมมักจะคิดถึงลูกและครอบครัวซะมากกว่า เป็นประจำทุกปีที่ผมมักจะกล่าวผ่านทางวาไรตี้นี้ว่า วันแห่งความรักไม่น่าจะถือแค่วันเดียว น่าจะให้ทุกๆวันเป็นวันแห่งความรัก และความรักในที่นี้มิใช่สำหรับหนุ่มสาวเท่านั้นแต่กับพ่อแม่ลูกๆและครอบครัวย่อมมีความรักให้แก่กันได้ ไทยเรามีวันครอบครัวคือช่วงสงกรานต์แต่นั่นคือคนไทย แต่กับคนทั่วโลกวันวาเลนไทน์ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพวกเขาครับ ดอกกุหลาบมักจะขายดี ในช่วงที่ผมแตกวัยหนุ่มมีบางปีปาเข้าไปคอกร้อยกว่าบาท แต่ระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดีพ่อค้าแม่ขายขาดทุนกันเป็นแถว เลยทำให้ความฮิตในเรื่องดกอกุหลาบสดลดน้อยลง หันไปหาคอกกุหลาบที่ทำจากวัสดุอื่นที่สามารถเก็บได้นาน ขอให้ลูกค้าวิสต้าทุกท่านมีแต่ความสุขและแบ่งปันความรักให้กันและกัน แล้วอย่าลืมไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ด้วยล่ะ
เมื่อพูดถึงลูกและครอบครัวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเล่าเรื่องลูกๆให้ฟังกันอีกสักครั้ง ตอนนี้ลูกสาวคนโตอายุ 24 เข้าไปแล้วหลังจากที่มาฝึกงานที่โรงแรมแชงกรีล่าเชียงใหม่กว่า6เดือน ตอนนี้เดินทางกลับไปโรงเรียนการโรงแรมที่สวิสฯแล้วจะเรียนเป็นปีสุดท้ายครับ หลังจบคงจะได้มาช่วยพ่อทำโรงแรมที่เชียงใหม่และกรุงเทพฯ ยอมรับจริงๆว่ามีลูกสาว2คนลูกชาย1คน ลูกสาวน่ารักกว่าลูกชายเยอะครับ โดยเฉพาะลูกสาวคนโตที่ลูกค้าวิสต้าอาจจำเธอได้ช่วงที่เรามาเปิดโรงหนังใหม่ๆจะมีรูปเด็กใส่ชุดไทยยกมือไหว้คนดู เดี๋ยวนี้เธอเป็นสาวแล้วครับ ส่วนลูกชายคนที่2ชอบไปทางดนตรี เรียนที่นิวซีแลนด์มา3ปีชักเบื่อ อยากมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย ตอนนี้เตรียมตัวไปเรียนเอแบคในปีการศึกษาที่จะถึงนี้ครับ ส่วนลูกสาวคนเล็ก18ปีแล้วจบไฮสกูลที่นิวซีแลนด์ ชอบขีดๆเขียนๆเหมือนพ่อ เลยเลือกที่จะเรียต่อที่มหาลัยที่กรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงนิวซีแลนด์ครับในด้านดีไซน์ อีก4ปีจบ
เห็นเรื่องโอเน๊ต-เอเน๊ตเมืองไทยแล้วพาลปวดหัวแทนพ่อแม่คนไทยจริงๆครับ เพราะจะว่าไปเรื่องการศึกษานั้นแสนง่าย แต่ระบบราชการมันทำให้ต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากัน นอกจากจะเรียนธรรมดาที่โรงเรียนแล้วหลังเลิกเรียนยังต้องเรียนพิเศษกวดวิชา มิเช่นนั้นจะสู้เพื่อนไม่ได้ กว่าจะกลับถึงบ้านปาเข้าไปทุ่ม2ทุ่ม พักผ่อนหลับนอนแล้วตี5ตื่นแต่งตัวมาโรงเรียนอีก วันเสาร์/อาทิตย์แทนที่จะพักผ่อน ต้องไปขวนขวายเรียนพิเศษอีก เรียกว่าสัปดาห์ทั้งสัปดาห์ไม่มีเวลาว่างๆพักผ่อนหัวสมองเลย แถมเวลาจะจบไปต่อมหาวิทยาลัยก็ยังไม่วายต้องแก่งแย่งที่เรียนกันอีก คนไทยมัน60กว่าล้านคน ย่อมต้องมีการแข่งกันสูง ผิดกับนิวซีแลนด์ที่มีประชากรเพียง3-4ล้านคน และคนส่วนใหญ่หลังจากจบภาคบังคับไฮสกูลแล้วมักจะไปทำงานกัน น้อยมากที่จะต่อมหาวิทยาลัย นี่คือเหตุผลที่ลูกๆผมมันฉลาดหนีไปเรียนที่นั่นตั้งแต่เล็กๆและรู้ว่าสู้กับเขาไม่ได้ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งผมก็เหมือนกันตอนเด็กๆสอบตกทุกทีกับเจ้าตัวเลขต่างๆ แต่โชคดีมาชอบทางภาษาอังกฤษเลยไปนอกซะเลยครับ...สวัสดี
2/5/09
วันหยุดตรุษจีนปีนี้ด้วยอานิสงของสายการบินต้นทุนต่ำอย่างแอร์เอเซียเลยทำให้ผมตัดสินใจบินไป บาหลี กับเที่ยวบินใหม่ล่าสุดของเขาแถมราคาที่บอกใครๆพากันอิจฉาก็คือไป-กลับเพียง3,500บาทต่อคนซึ่งถูกกว่าบินขึ้นมาเชียงใหม่เสียด้วยซ้ำ เพราะเที่ยวบินนี้เขาเพิ่งเปิดบินเมื่อไม่นานมานี้ จองก่อนก็ได้ราคาถูก ไม่ได้ไปบาหลีมานานหลายปีแล้ว ดีที่ได้ไปทบทวนความทรงจำเก่าๆที่ไม่เคยลืมเลือน เพราะที่พักที่ผมไปพักนั้นได้ถูกจัดเป็นหนึ่งในสิบโรงแรมที่น่าพักมากที่สุดของโลก ห้องพักแบบวิลล่าที่มีสระน้ำส่วนตัวเล็กๆ ที่ใครๆพากันลอกเลียนแบบ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เหมือนเขา วิกฤตเศรษฐกิจโลกก็ทำให้ห้องของเขาว่างไปบ้างแต่ราคาแพงกว่าเดิมที่ผมเคยพักคืนละ500เหรียญสหรัฐฯเดี๋ยวนี้เขาปรับ แถมที่ไปเป็น800เหรียญแล้วครับ อย่าเพิ่งว่าผมอวดร่ำอวดรวยเลยนะครับ ผมถือว่าเราไม่ได้ไปพักกับเขาบ่อยๆ ถือว่านานๆครั้งได้ไปพักผ่อน เหนื่อยมาตลอด มีแต่ให้เขาใช้ตัวเองน้อยนักที่จะใช้ อาจจะเพราะพ่อแม่ผมเขาจนมาก่อนเลยพร่ำสั่งสอนผมว่าให้ใช้จ่ายอย่างประหยัด ใครจะเชื่อเวลาผมไปทั้งในประเทศหรือนอกประเทศใช้สายการบินโลว์คอสต์บ่อยไปครับ กับระยะเวลาการบินถึง4ชั่วโมงครึ่งกับราคาตั๋วผมว่าถูกมากครับยังไม่เต็มด้วย อีกทั้งผมเห็นว่าระยะเวลาบินมันนานจึงยอมเสียเงินเพิ่มจองแบบได้ขึ้นเครื่องก่อนใครที่เขาเรียกว่า EXPRESS BOARDING ด้วยความที่ไม่ทราบว่าเขาให้เกียรติคนสูงอายุที่ผมตอนนี้ปาเข้าไป56แล้ว ราคาที่เพิ่มก็คือ180บาททั้งไปและกลับ ดีเน๊าะ แต่อย่าได้หวังว่าเขาจะให้นั่งแถวที่1หรอกนะ เพราะเขาตีตราจองไว้ เลยไปนั่งที่เดิมๆคือประตูฉุกเฉินที่มีที่วางขากว้างกว่าปกติสักหน่อย เกาะบาหลีมีเมืองหลวงชื่อเดนบาซาร์ครับ เมื่อ4ปีก่อนโดนระเบิดพลีชีพไปคนตายมากมายเล่นเอาบรรดาโรงแรมต่างๆพากันปิดตัวเพราะไม่มีใครกล้าไปโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เป็นชาวออสเตรเลีย ซึ่งเขาบินมาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง ใกล้กว่าเรา แถมเมื่อ2ปีก่อนยังมีระเบิดแบบย่อมๆอีก2ลูกแถวๆโรงแรมที่ผมพัก คนตายไป20กว่าคน เลยเรียกได้ว่าการท่องเที่ยวเขาสนิท บาหลีไปเที่ยวนี้ต่างกับไปครั้งก่อนประมาณ4-5ปีได้ เจริญขึ้นมาก มีโรงแรมน้อยใหญ่ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด แต่กับเหตุการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันเลยทำให้บรรดาโรงแรมเหล่านั้นเหงาๆไป มีคาร์ฟูแห่งแรกที่ลอกผังมาจากของเราที่เพิ่งเปิดใหม่ที่หางดง เรียกว่าหลับตาเดินก็ยังหาของที่จะซื้อได้ถูก ได้คนขับรถคู่ใจที่ผมเผอิญมีความจำดีสักหน่อย จำชื่อเขาได้เลยเรียกเขามาใช้นำมาซึ่งความดีใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก ไปเที่ยวนี้เพียง3วัน2คืน เรียกว่ายังไม่หนำใจแต่ทำไงได้มีเวลาแค่นั้นแต่ก็ได้ไปเยี่ยมชมวัดที่เขาเอามาโฆษณา ทานาล๊อค วัดกลางทะเลที่เวลาน้ำลงสามารถเดินไปชมได้ หรือวัด วานาวาตู วัดที่มีฝูงลิงดุมากมาย แว่น/หมวก/กล้อง เผลอไม่ได้ฉกไปเลย ขอนำภาพมาฝากให้ได้ชมยั่วน้ำลายไปพลางๆก่อนนะครับ...สวัสดี
Subscribe to:
Posts (Atom)