ผมจำได้ว่าเมื่อตอนผมเด็กๆอายุน้อยๆเฝ้าแต่ฝันว่าเมื่อไหร่จะได้ขึ้นเครื่องบิน จนอายุราวๆ13กระมังพ่อพาไปเที่ยวฮ่องกงกับพี่สาวและแม่ ตื่นเต้นน่าดูเลยครับ ตอนนั้นใครจะไปนอกทีต้องตัดเสื้อนอกใส่ อีกทั้งเพราะตั้งแต่เด็กไม่มีใครสอนให้กระผมใช้ตะเกียบ จึงต้องหัดโดนแม่ขู่ด้วยว่าหากใช้ไม่เป็นไม่ให้ไป แต่เดี๋ยวนี้โดยเฉพาะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสนามบินมีแต่เด็กๆเพราะเริ่มปิดเทอมพ่อแม่พาไปเที่ยวหรือเยี่ยมญาติ ดูแล้วก็ได้แต่อมยิ้มว่าจริงอย่างที่ air asia เขาเขียนไว้ข้างเครื่องบิน now everyone can fly ก็ราคาต่อเที่ยวมันถูกอย่างนั้นใครจะไปห้ามใจอยู่ นี่ไม่ได้โฆษณาให้เขานะครับแต่เครื่องสายอื่นอย่างนกแอร์/1-2โก ก็เช่นกันราคาพากันลดสุดๆ มีบางเที่ยวโฆษณาว่า3บาทแต่กว่าจะรวมค่าอื่นๆปาเข้าไปพันกว่า ถึงอย่างไรก็ยังถูกกว่าการบินไทย ตาร้อนผ่าวเลยกับเด็กๆ
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีเวลาว่างมากขึ้นเลยได้ดูหนังถึง2เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกเป็นหนังฝรั่ง STARDUST ที่เห็นโฆษณาแล้วก็อยากดู หนังว่าถึงการเดินทางผ่านมิติเวลา ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นต้นคิดเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระจก/ตู้เสื้อผ้าเขาให้เดินทะลุมิติกันได้ทั้งนั้น หนังผมเองเรื่องแรก ผลุบโผล่ ก็เช่นกัน เรื่องนั้นออกจะติดตลกและลอกเลียนทวิภพเขา หนังดูสนุกแต่ใครคิดจะเอาไปเทียบNARNAIล่ะลืมได้เลยครับ เพราะหนังเรื่องนั้นผมว่าสุดยอดแล้วไม่ว่าเนื้อหารวมไปถึงeffectต่างๆ ดูเอาสนุกก็ล่ะกันครับ ต่อมาได้ดูหนังไทยแนวระทึก ซึ่งหลังๆมานี้มีออกมาให้คนดูได้ตกอกตกใจกันมาก บอดี้ ศพ#19 เห็นเขาโฆษณาแถมมีรอบพิเศษสัปดาห์ก่อนอีกทั้งเป็นของ ไท/แกรมมี่ หนังคงจะมีภาษีกว่าพระนครฟิล์มเป็นไหนๆ ต้องบอกว่าใครคิดจะสร้างหนังแนวนี้ต้องแน่นในเรื่องบท เพราะคนที่เข้าไปดูเขาต้องการระทึก ต้องการให้สาวที่มาด้วยต้องผวามากอดเรา แต่อาจจะเพราะผมคนหนึ่งล่ะที่ถูกหลอกมาก็เป็นสิบปีแล้วยากที่หนังเรื่องไหนจะทำให้ผมสดุ้งตกใจ แต่กับหนังเรื่องนี้ผมต้องบอกว่านอกจากต้องคอยระแวดระวังบรรดาฉากสยองๆแล้วยังต้องตั้งใจดู หากละสายตาแล้วอาจจะดูไม่รู้เรื่องก็ได้เพราะเนื้อหาสาระมันดูลำบากครับ สรุปหนังดูน่ากลัวบ้างแต่กับบท ปวดหัวกว่า ครับ สุดสัปดาห์นี้ผมจะบินไปนิวซีแลนด์ ไปเยี่ยมลูกๆซึ่งตอนนี้เหลืออยู่2คน ลูกชายปีหน้าก็จะจบมหาลัย ส่วนลูกสาวคนเล็กปีหน้าจะจบไฮสกูล แม่เขาไปอยู่มี่นั่นมาเกือบเดือน เรียกว่าผมอยู่แบบโสดๆแต่ไม่ซิงมาเกือบเดือนแล้วครับ ที่ไปก็ไปเพียงไม่กี่วันเพราะตั้งแต่มารับงานราชาชูรสแทบไม่มีเวลาหนีไปไหนเลยครับ ไปดูแลบิลค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องไปจ่ายเขา ไม่มีลูกสาวคนโตที่อยู่สวิสฯเลยไม่ค่อยไว้ใจ จึงทำให้อดดูหนังจากการสร้างของ ไมเคิล มานส์ HEAT "THE KINGDOM" ที่มีดาราชายอย่าง เจมส์ ฟอกซ์ ระดับออสการ์ เล่น เห็นลูกสาวที่นิวซีแลนด์ไปดูมาเขาบอกว่าสนุกดี คงต้องรออาทิตย์หน้า...สวัสดีครับ
10/10/07
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 comment:
ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความ
Post a Comment