Chiangmai Vista
Home | Vista Variety | Vista Movie | Show time

8/22/10

สุขสันต์วันเกิด "น้องปุ้ย" ทุกวันที่18ของทุกปีเป็นวันสำคัญของครอบครัวผมอีกวันหนึ่ง เป็นวันเกิดของลูกสาวคนโตผมครับ ปีนี้อายุปาเข้าไป26ปีแล้วครับ เป็นปีที่2ที่เธอได้มาฉลองในประเทศไทย เพราะปีก่อนๆเธอเรียนหนังสืออยู่ที่นิวซีแลนด์และสวิสฯ หลังจากที่จบมาก็กลับมาบริหารโรงแรมวิสต้าเรสซิเด้นท์ที่ กทม. กับจำนวนห้องพักเพียง15ห้องแต่โชคดีกว่าวิสต้าเชียงใหม่เพราะทำเลดี อยู่ใจกลางเมือง เดินไม่ถึง5นาทีก็ถึงศูนย์การค้ามาบุญครองแล้ว อีกทั้งพอออกไปปากซอยซึ่งเดินไม่กี่เมตรยังมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่สามารถเดินทางไปไม่ว่าจะ หมอชิต/วงเวียนใหญ่/อ่อนนุช และต่อรถไฟฟ้าไปสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย แขกเข้าพักเราก็อาศัยปากต่อปากจึงทำให้แขกซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาเข้าพัก จะสะดุดไปหน่อยก็ช่วงเสื้อแดงเดือนพ.ค.ทำเอาแขกหายไป บางคืนไม่มีสักห้อง แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวพากันกลับมาแล้วครับ น้องปุ้ยคนนี้หากใครเป็นแฟนโรงหนังวิสต้ามาตั้งแต่ต้นจะสังเกตุเห็นเด็กหญิงใส่ชุดไทยยกมือไหว้ผู้ชมก่อนหนังฉายนั่นคือเธอครับ ส่วนลูกอีก2คน คนกลางเป็นผู้ชายตอนนี้กลับมาศึกษาต่อที่ABACประเทศไทยครับ ลูกสาวคนเล็กยังศึกษามหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์อีก2ปีถึงจะจบครับ เด็กๆสมัยนี้ความรู้เขาดีกว่ารุ่นผมเยอะ จะรู้น้อยได้อย่างไรสมัยผมอินเตอร์เน็ตยังไม่เกิด จะอ่านข่าวสารทีต้องพึ่งหนังสือพิมพ์ซึ่งเสนอข่าวช้า เช่นผลรางวัลออสการ์กว่าจะรู้ก็โน่น7วัน10วันเข้าไปแล้ว ขอได้แต่หวังแกคงจะสามารถรับช่วงผมได้ในอนาคตเป็นอย่างดี.
ผมเพิ่งเดินทางไปเยี่ยมบ้านหลังน้อยที่นิวซีแลนด์มาครับ 4เดือนกว่าแล้วที่ไปหลังสุด อากาศช่วงนี้ยังคงอยู่ในฤดูหนาว ตลอดทั้ง5วันที่ผมไปอยู่ฝนตกปอยๆแทบทุกวัน แต่ฝนเขาตกคล้ายๆเรายืนอาบน้ำฝักบัว แต่ยิ่งตกยิ่งหนาวครับ วันแรกที่ไปถึงก็เตรียมเสื้อหนาวไปแต่ไม่ได้ใช้เพราะอากาศไม่หนาวอย่างที่คิด แต่ยิ่งอยู่ไปยิ่งหนาวครับ มาเจ็บใจเอาวันสุดท้ายที่จะเดินทางกลับแดดโผล่ ท้องฟ้าสีฟ้าใส เฮ้อเจ็บใจ ไปครั้งนี้ก็เหมือนครวาก่อนๆเพราะลูกสาวคนเล็กเขาเลือกไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมือง เวลิงตัน เมองหลวงของประเทศ หากบินก็ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมง บ้านเลยเงียบสงบปราศจากเสียงใดๆ ดีที่ผมมีตาดำมากกว่าตาขาว จึงสามารถใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนได้อย่างสบาย หากใครตาขาวคงนอนไม่หลับแน่ ยิ่งบ้านเขาพื้นไม้ด้วยเวลากลางคืนอากาศเปลี่ยนก็จะมีเสียงก๊อบๆแก๊บๆ เหมือนมีคนเดินอยู่ เศรษฐกิจที่นั่นต้องถือว่าดีกว่าบ้านเราเพราะโลกจะเป็นอย่างไรเขาไม่สนเพราะวัตถุดิบที่เขามีอยู่ก็สามารถทำให้เขายืนด้วยตัวเขาเองได้ แถมยังมีเหลือใช้ส่งออกหารายได้เข้าประเทศเสียนี่ ดูอย่างปศุสัตว์เช่นวัว/แกะ นอกจากจะขายเนื้อที่เขาว่าสุดยอดยังมีผลพวงของนม/หนังแกะ/รกแกะที่นำมาทำเครื่องสำอางค์ บ้านเรือนก็ขยายมากมายถึงดอกเบี้ยเขาจะแพงกว่าบ้านเราก็เถอะ แต่ก่อนศูนย์การค้าเงียบเหงา เพราะวันอาทิตย์วันครอบครัว ศุนย์ปิดครับ เดี๋ยวนี้เสาร์/อาทิตย์เปิดถึง6โมงเย็นครับ ไปมาทีไรกลับมาสดชื่นทุกครั้ง อาจจะเพราะอากาศที่นั่นดี น้ำก็ไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อน้ำดื่ม รองจากก๊อกแล้วทานได้เลย..คล้ายไปชารท์แบตเตอรี่....สวัสดีครับ

No comments: