4/6/07
Vista Variety 29 Mar 07
วันที่ 31 มีนาคมนี้ ดรงภาพยนตร์แห่งแรกของเราในจังหวัดเชียงใหม่จะมีอายุครบ 15 ปีเต็ม ซึ่งโรงที่ว่าก็คือ เจริญเมือง 1-2 และถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมผันตัวเองจากคนดูหนังมาเป็นเจ้าของโรง สมดั่งที่เคยฝันไว้ ผมเชื่อแน่ว่าคนทั้งหลายในโลกนี้ต่างก็มีความฝันของแต่ละคน บางคนฝันอยากเป็นหมอ อยากเป็นนักร้อง แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ไปไม่ถึงฝันที่ตัวเองฝันไว้ ผมอาจจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ฝันอะไรไว้ส่วนใหญ่ก็จะได้ตามที่ฝัน นับตั้งแต่สมัยเด็กๆคุณแม่มักจะพาไปดูหนังในวันหยุดเรียน บ้านผมอยู่แถวไซน่าทาวน์ซึ่งสมัยก่อนเขาเรียกว่าเป็นทำเลทอง มีโรงหนังอยู่มากมายแถวนั้นไม่ว่า เฉลิมบุรี/บรอดเวย์/เท็กซัส/คาเธย์ ซึ่งหากใครอายุไม่ถึง30ปีคงจะไม่รู้จักโรงหนังที่ผมกล่าวมานี้ เพราะบางแห่งก็ถูกทุบทิ้งไปแล้ว จากการที่ถูกเพาะเลี้ยงมาแบบนั้นจึงทำให้เป็นคนรักหนังเป็นชีวิตจิตใจ จนบางคนเขาบอกว่าหากนำเอากระดูกผมมาบดคงจะพบแผ่นฟิล์มอยู่เป็นแน่แท้ จนกระทั่งวันหนึ่งมีพี่สวงสุดา ชมลัมพี ลูกสาวของอาวินิจ ภักดีวิจิตรพี่ชายของคุณฉลอง ภักดีวิจิตร ที่สร้างชื่อกับการทำหนังบู๊แอ๊คชั่น "ทอง" กระทั่งเอาฝรั่งมาเล่นหนังไทย มาขอถ่ายบ้านไปเป็นบ้านนางเอกในหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีนางเอกชื่อลลิตา ปัญโญภาส เสียด้วยซิ จากการพูดคุยกันเลยทำให้แกได้มาเป็นผู้กำกับหนังเรื่องแรกในชีวิตของผม "เราสอง" ซึ่งไปถ่ายทำกันถึงสก๊อตแลนด์ แล้วจากนั้นผมได้เป็น ผอ.หนังอีก 7 เรื่องด้วยกัน ที่ดังที่สุดสมัยนั้นคงหนีไม่พ้นหนังแนวฟิล์มนัวร์จากฝีมือของพี่มานพ อุดมเดช "กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน" แต่ด้านวิสัยทัศน์ของผู้กำกับมองไกลกว่าแฟนหนังไทยสมัยนั้น จึงทำให้ไม่ประสพความสำเร็จเรื่องรายได้แต่..กลับไปค้วารางวัลทั้งในและต่างประเทศมากมายให้กับผม และเมื่อได้รับการทาบทามจากคุณเพิ่มพล เชยอรุณ ที่ขึ้นมาดูแลด้านบันเทิงกาดสวนแก้ว มาชักชวนให้ขึ้นมาทำโรงหนัง จนมีอยู่ช่วงหนึ่ง วิสต้า ครอบครองโรงหนังเชียงใหม่ได้ไว้ทั้งหมด เราเคยมีโรงหนังด้วยกันถึง 16 โรง ทั้งนี้และทั้งนั้นที่เราสามารถอยู่ได้ที่นี่เพราะใคร ทราบดีว่าผมทำโรงด้วยใจ มิใช่เพื่อหวังผลกำไรลูกเดียว เราเป็นเจ้าแรกที่นำเอาหนังฝรั่งเสียงในฟิล์มขึ้นมาฉายเอาใจคนรักหนัง เจริญเมือง 1-2 กับความจุเพียงโรงละ 300ที่นั่ง แต่เคยฉายหนังทำเงินกว่าล้านบาทหลายเรื่อง ล้านสมัยนั้นค่าดูเพียง 20-30 บาทเท่านั้น มาเมื่อหลายปีก่อนค่ายโรงหนังระดับอินเตอร์มาบุกที่เชียงใหม่ แต่เราก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ แบบเศรษฐกิจพอเพียง ได้น้อยก็ใช้น้อย มาบัดนี้แฟนๆหลายๆคนกลับมาที่เราด้วยความสะดวกสบายไม่ต้องเบียดเสียดกับการซื้อตั๋วหรือเข้าชม ขอขอบคุณแฟนๆชาวเชียงใหม่ ที่ถึงปัจจุบันนี้ก็มีการเขียนใส่เมล์มาให้กำลังใจผมและวิสต้าตลอดมา บุญคุณนี้เราพยายามทดแทนให้เท่าที่เราจะทำได้ คงไม่ลืมว่าค่าดูเขาขึ้นไปถึง 120-140 บาท แต่เราก็ยังคงปักหลักที่ 70-90 บาท ไม่เคยเปลี่ยน...ขอบคุณจริงๆ ...สวัสดีครับ...
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment