Chiangmai Vista
Home | Vista Variety | Vista Movie | Show time

3/25/10

นาคปรก หลังจากที่ได้พบเห็นแบนเนอร์ผ้าใบที่ติดตามสี่แยกต่างๆใน กทม. เกี่ยวกับการที่โจรเข้าไปบวชเป็นพระภิกษุ เพื่อหนีการติดตามจับกุมของมือกฎหมายในวัดแห่งหนึ่ง อีกทั้งรูปของชายหัวโล้นคาดสบงดูเหมือนพระ จึงทำให้ผมอยากดู เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสขึ้นมาเชียงใหม่(หลังจากที่มีงานมากที่ กทม. ไม่ได้ขึ้นมาหลายอาทิตย์)จึงรีบไปดูโดยที่ไม่ได้ทราบถึงความเป็นมาของหนัง รวมถึงที่ไม่ได้ทราบว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาแล้วกว่า3ปี แต่โดนแบนจึงยังไม่ได้ฉายเสียที มาคราวนี้ผ่านเซนเซอร์โดยที่ไม่ได้มีการตัด อาจเพราะปัจจุบันนี้คนไทยเปิดใจมากขึ้น จึงทำให้หนังได้ออกฉาย หลังจากที่ดูจบก็ต้องยอมรับว่าหนังน่าดู สนุกมากครับ ถึงจะลงทุนต่ำเพราะดารามีกันไม่กี่คน ตัวเอกเต๋า สมชาย เข็มกลัด เมื่อสามปีก่อนดังพอดู เดี๋ยวนี้อาจจะไม่ได้เห็นเขาบนจอเงินมากนัก หลีกทางให้เด็กรุ่นๆสดๆออกมาแสดงแทน ในไตเติ้ลเห็นผู้ดำเนินงานสร้างเป็นคนเดียวกับที่ทำหนังเช่น โคตรเอ็งเลย จึงทำให้มีสมาธิดูมากขึ้น เนื้อหาหนังเดินไปเรื่อยๆ แต่ระหว่างทางก็ทิ้งปมไว้หลายๆปม ที่ค่อยๆมาแก้ให้คนดูได้เข้าใจในช่วงท้าย หนังยังคงทำให้คนดูได้คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษ ซึ่งจะว่าไปคนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยเชื่อถือ จนมีคนรุ่นใหม่นี่แหละพูดให้ได้ยินว่าที่คำสั่งคำสอนของพระที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มันไม่จริงเสมอไป เพราะสังคมทุกวันนี้เราได้เห็นคนชั่วแล้วได้ดีมากมาย จนคนที่เพียรทำความดีท้อแท้ บางคนถึงกับสลับขั้วไปทำชั่วกับเขาอีก นานแล้วที่ไม่ได้ดูหนังไทยแบบมีสาระดั่งเรื่องนี้ สมัยนี้มีแต่ตลกโปกฮา อีกทั้งแถมคำพูดจาหยาบคายเกือบจะทุก10นาทีในหนัง จนทำให้หลายคนคิดว่าคำเหล่านั้นไม่หยาบ พูดได้ หลายคนที่ดูหนังออกมาบอกว่าสมกับการรอคอยถึง3ปีที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้ ดีไม่ดีขอเชิญชวนแฟนหนังไทยไปตัดสิน
การตลาด ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้คำๆนี้มีความสำคัญมากๆ ไม่ว่าอะไรมักต้องมีการตลาดนำ จึงทำให้วิชานี้มีผู้คนเลือกที่จะเรียนในมหาวิทยาลัย ทำไมหรือครับ? ก็ดูอย่างท่านอดีตนายกฯที่รักยิ่งของผม ท่านทักษิณ ก็อาศัยวิชานี้นำพาให้พรรคพวกของตัวเอง ได้รับการเลือกตั้งแบบถล่มทะลายมาแล้ว มีเสียงข้างมากในสภาฯมากกว่าพรรคเก่าๆอีกหลายพรรค การตลาดสอนให้เราเห็นถึงความสำเร็จ ที่เราจะได้หากเราเรียนรู้ถึงความต้องการของคุณ/จุดอ่อน/จุดแข็ง ดูอย่างพรรคไทยรักไทยในอดีต ได้นำจุดอ่อนของราชการที่กว่าประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือได้ อาจจะต้องรอถึงชาติหน้า แต่เมื่อพรรคนี้เข้ามามีการมอบเงินให่หมู่บ้านละ1ล้านบาทเพื่อพัฒนาหมู่บ้านตนเอง ซึ่งแต่ก่อนกว่าหลวงจะมอบเงินให้ก็รอๆแล้วรออีก นี่ไม่ต้อง หรืออย่างรักษาทุกโรคได้เพียง30บาท ที่แต่ก่อนแค่ไปรอพบเแพทย์ตามโรงพยาบาลก็หมดไปเป็นวันแล้วครับ ดังนั้นใครจะว่าอดีตนายกฯที่รักยิ่งของผมอย่างไรก็ช่าง ผมว่าท่านคือนักการตลาดตัวยงในยุทธภพนี้ แต่อาจจะด้วยการที่คนเรา อยากได้อะไรก็ต้องทำตนให้เป็นผู้ให้ที่ดีก่อน หากแต่การให้ของท่านนั้นมีนัยซ่อนเร้นที่มีคนจับได้ ความศรัทธาในตัวท่านค่อยๆลดลง เปรียบเสมือนผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผ่านมาก็ผ่านไป คนใช้ลืมมันไปได้เพียงไม่กี่วินาที การจะไปหลอกผู้คนแบบสมัยก่อนนั้นยากเขาไม่โง่ เพราะการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ตมันรวดเร็วจริงๆครับ...สวัสดี

3/19/10

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางกระแสของบรรดาเสื้อแดงที่จะพากันพาเหรดเข้ากรุงเพื่อกดดันนายกอภิสิทธิ์ให้ยุบสภาฯ ว่ากันว่าจะมากันเป็นล้านคน...แต่มาเหลือเพียง10%ของที่คุยไว้คือราวๆแสนคน แต่ก็ต้องถือว่าเก่งนะครับเพราะการรวมตัวกันเป็นแสนก็ลำบากพอสมควรตามความคิดของผม แต่ถึงอย่างไรดั่งที่รู้กันในวันนี้ที่ผมเขียนวาไรตี้เป็นวันพฤหัสฯที่18 รัฐบาลก็หาสะทกสะท้านไม่ ฝ่ายเสื้อแดงต่างหากที่อ่อนล้าลงและพากันหลบกลับบ้านเป็นจำนวนมาก เพราะพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นเพียงชาวไร่ชาวนาหาเช้ากินค่ำ จนเหลือไม่ถึงหมื่นแล้ว เล่นเอาบรรดาแกนนำปวดหัวว่าจะหาทางลงแบบสวยๆได้อย่างไร ทำให้คิดถึงคราวพันธมิตรชุมนุมกันได้อย่างไรถึง193วัน บทเรียนที่ได้สำหรับครั้งนี้ของรัฐบาลที่ผมว่าน่าจะนำไปคิดก็คือความยากจนของคนชนชั้นกรรมกร ที่ถึงตรงนี้แล้วยังลืมตาอ้าปากไม่ได้ไร่นาก็เป็นของนายทุนไปหมด ตัวเองมีหน้าที่เพียงรับจ้างเขาก็เท่านั้นเอง จะทำอย่างไรให้พวกเขาลืมตาอ้าปากได้ ใช่ครั้งนี้มีเพียงทักษิณแต่หากหมดเขาไปก็จะมีคนใหม่ๆเข้ามา โดยการเอาจุดอ่อนนี้มาใช้อีก ใจผมน่ะหากเรายึดเงินมาได้จากทักษิณทำไมไม่นำมาหารจำนวนประชากรแล้วแจกให้พวกเขาเลยไม่ต้องไปมีโครงการต่างๆ ที่จบลงก็มีคนแสวงหาผลประโยชน์จากมันอีกไม่รู้จบสิ้น ตราบใดที่ช่องว่างของรายได้ประชากรเรามันยังเลื่อมล้ำต่ำสูงกันดั่งปัจจุบันนี้ คิดไปเองนะครับ ผิดถูกขออภัย
เอาเรื่องทำบุญดีกว่ากระมังครับเพราะเมื่อช่วงพรรษาที่ผ่ามาบริษัทราชาชูรสได้มีการจำนำเทียนพรรษาที่ลงทุนหล่อกันเองที่โรงงานไปถวายที่วัดในเมืองปากเช สปป.ลาว และมีการถวายปัจจัยกว่า4แสนบาทเพื่อร่วมสร้าง ศาลาโรงธรรม ที่คั่งค้างกว่า2ปีให้เสร็จเสียที มาวันนี้ศาลาเสร็จมีการจัดงานฉลองแต่เพราะผมติดพิธีศพคุณแม่ เลยต้องเลื่อนมาอีกสัปดาห์ไปดูด้วยตาว่าปัจจัยที่ถวายไม่สูญเปล่า ได้มีการนำไปใช้จริง ถือว่าเราท่านได้มีส่วนร่วมสร้างบุญกุศลในครั้งนี้ร่วมกัน ชาวบ้านเขาก็ดีใจและพากันกล่าวว่าหากไม่มีเราไปทำบุญ ไม่ทราบเหมือนกันว่าศาลาหลังนี้จะเสร็จเมื่อใดเพราะราคาค่าสร้างทั้งสิ้นกว่าล้านบาทไมยครับ เดินทางไป-กลับโดยนกแอร์ที่มาบินแทนการบินไทย นานแล้วที่ไม่ได้อุดหนุนเพราะขึ้น-ลง ดอนเมืองไม่สะดวกครับ หน้าตาน้องๆยังยิ้มหวานเหมือนเดิมครับ ...สวัสดีครับ

3/11/10

ผ่านพ้นไปแล้วครับกับการนำศพของคุณแม่ออกมาตั้งบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา7คืน แต่แรกผมกับครอบครัวคาดว่าคงไม่ค่อยจะมีแขกมาร่วมงาน แต่ผิดคาดครับ มากันอย่างล้นหลาม อีกทั้งเงินที่ผมคิดไว้ตั้งแต่แรกที่จะรวบรวมนำไปทำการกุศลเปรียบเสมือนการทำบุญครั้งสุดท้ายของคุณแม่ (เพราะในงานเราได้เรียนให้แขกเหรื่อทราบว่าเราไม่รับพวงหรีดขอรับเป็นเงิน)ยอดขั้นต้นคือ 1,000,000 บาท แต่เมื่อครบ7คืนยอดการบริจาคเกิน 800,000 บาทไปแล้วครับ คาดว่าคงจะต้องรอเข้าเฝ้าและมอบถวายให้กับ สมเด็จพระเทพฯ ครับ ขอขอบคุณแขกทุกๆท่าน ที่กรุณาร่วมทำบุญรวมถึงบรรดาพนักงานวิสต้าทั้งโรงแรมและโรงหนังที่พากันสละเงินคนละเล็กละน้อยใส่ซองฝากมาร่วมทำบุญ นี่แหละครับคนไทย หากมีโอกาสทำบุญทำทานทุกคนจะพยายามมีส่วนร่วม ผมจะเก็บศพคุณแม่ไว้ครบ100วันแล้วจะนำออกมาทำพิธีเผาต่อไป..
และที่ผ่านไปอีกงานก็คือการประกาศผลรางวัลออสการ์ซึ่งเปรียบเสมือนรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการภาพยนตร์โลก เป็นไปตามคาดของผมว่า AVATAR มีชื่อถูกเสนอเข้าชิงถึง9รางวัล ได้กลับมาเพียง3และทั้งหมดมาจากส่วนของภาพและเทคนิค ทีแรกที่ผมดูและเขียนผ่านวาไรตี้นี้ก็ได้แต่เปรยว่าเนื้อหาสาระเก่าๆ แต่หลังจากได้เห็นรายรับเฉพาะในสหรัฐฯก็ได้แต่เอ่ยกับตัวเองว่าการดูหนังของผมเริ่มจะเปลี่ยนแปลงแล้วเหรอนี่? ก็หนังรายได้ปัจจุบันปาเข้าไป700กว่าล้านเหรียญแล้ว แต่หลังจากที่ได้รับทราบถึงรางวัลที่ได้รับก็ดีใจว่าเราดูหนังแล้วยังคิดถูกต้องอยู่ ส่วนหนัง THE HURT LOCKER หนังที่ทำมากกว่า2ปีแต่ไม่มีโอกาสฉายเพราะไม่มีใครกล้าซื้อไปฉายเรื่องนี้คล้ายๆกับหนังยอดเยี่ยมปีก่อน SLUMDOG ที่ตอนยังไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์แทบจะไม่มีใครชำเลืองตามาดูรวมถึงไม่มีใครซื้อ 6รางวัลจาก9 ถือว่าหนังประสพความสำเร็จไปขั้นหนึ่ง รวมถึงงบการสร้างเรียกว่าเทียบกับAVATARไม่ได้ แต่ด้วยกระแสของคนอเมริกันที่กำลังเห็นว่าการนำทหารสหรัฐฯไปรบในอิรัก ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นกับประเทศของเขามากมายนักเลย จึงทำให้หนังมาได้ไกลปานนี้ วงการได้ผู้กำกับหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลเกรียติยศนี้ทั้งๆที่มีการแจกรางวัลมา82ปีแล้วก็ตาม ส่วนดารานำชายอายุปาเข้าไป60แล้ว รอมาเกือบหมดอารมณ์แล้ว ส่วนดารานำหญิง แซนดร้าบูลล็อค ดาราที่ดังจาก SPEED ก็รอมาจนปานนี้ ส่วนประกอบชายไม่มีใครเถียงกับเจ้าของรางวัลเพราะทุกคนยกแม่โป้งใหห้หมด...สวัสดีครับ

3/10/10

สำหรับสุดสัปดาห์นี้คอหนังตัวจริงคงจะต้องรอลุ้นใครจะได้รับรางวัลออสการ์ซึ่งถือว่าสุดยอดของวงการภาพยนตร์ของโลก จะประกาศผลกันเช้าวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. เวลา 08:30 เวลาในไทยซึ่งจะเร็วกว่าสหรัฐประมาณ12ชั่วโมง หนังรางวัลปีนี้ในไทยค่อนข้างจะเงียบเหงาไป หรือเพราะผมมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจากไปของคุณแม่ก็ไม่ทราบได้ โชคดีหน่อยที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเยือนนิวซีแลนด์อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ไปมาเมื่อกลางเดือนธันวา ที่บ้านหลังน้อยของผมตอนนี้ไม่มีใครอยู่เพราะลูกสาวคนเล็กไปเรียนมหาลัยที่เมืองหลวงเมืองเวลลิงตันทางใต้ของเกาะเหนือ ส่วนที่บ้านอยู่เกาะใต้ครับ หากบินก็ต้องใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง ตอนนี้ปลายร้อนแล้ว แต่อากาศที่ไปถึงค่อนข้างร้อนเห็นว่าปีนี้ฤดูร้อนค่อนข้างแปรปรวนอย่างกับไม่ใช่ฤดูร้อน มาตอนนี้ถึงได้มีบรรยากาศเหมือนฤดูร้อนหน่อย นอนกลางคืนต้องเปิดแอร์ครับ เห็นบ้านแล้วเงียบเหงา คิดถึงพวกเขาที่อยู่พร้อมหน้ากันทั้ง3คนแต่เดี๋ยวนี้เงียบคงอยู่ไม่ได้ ส่วนผมเคยชินแล้วครับ เวลาไปต่างประเทศส่วนใหญ่นอนคนเดียว...หยุดหากคิดว่าไปต้องไปหาคู่นอน แต่ก่อนอาจใช่ ตอนนี้อายุอีก3ปีก็60แล้วครับ นอนดูทีวีแล้วหลับสบายๆไม่ต้องมากังวลคนข้างๆจะตีหัวเราเอาเงินทองไปเมื่อไหร่ ยิ่งแหม่มแล้วขนาดขนาดผมไม่ให้ครับ เกรงจะถูกแหม่มเตะตกเตียงซะก่อน...555
ไปครั้งนี้ค่อนข้างจะสั้นมากเพราะนอกจากนอนบนเครื่อง1คืน นอนที่บ้าน2คืนก็เดินทางกลับมาซะละ เรียกว่าบางคนนึกว่าผมขึ้นมาเชียงใหม่เสียด้วยซ้ำ ที่ไปก็เพราะเป็นห่วงบ้านหลังน้อย ถึงแม้จะมีพ่อแม่อดีตแม่บ้านลูกดูแล(เพราะบ้านแกอยู่ตรงข้ามบ้านผม) ได้มีโอกาสดูหนังบนเครื่องกับไปดูในโรงที่นั่นหลายเรื่อง เรียกว่าสะใจ เรื่องแรกคือ UP IN THE AIR ที่หนุ่มหล่ออย่าง ยอรช์ เคอร์นี่ย์ นำและได้มีชื่อชิงดารานำชายเสียด้วย แต่เนื้อเรื่องงั้นๆครับ หนังคงเป็นได้เพียงน้ำจิ้มในงานปีนี้ครับที่ดีๆก็หนังที่สร้างจากผู้กำกับหญิงแกร่งอดีตคนรักเจมส์ คาเมรอน THE HURT LOCKER หนังเกี่ยวกับทหารสหรัฐฯหน่วยกู้ระเบิดในอิรัก หนังดูแล้วเครียดดีแต่ได้อารมณ์ เงินลงทุนคงเทียบไม่ได้กับ AVATAR ไม่แน่ปีนี้วงการหนังจะได้ผู้กำกับหญิงขึ้นรับรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกก็ได้ อีกทั้งคู่ชิงก็เป็นแฟนเก่ากันอีก ไม่แน่ใจครับว่าคนสหรัฐจะกินใจกับอารมณ์ของทหารของตัวที่ส่งไปรบในดินแดนที่ตัวเองก็ไม่ใช่เจ้าของ..แต่ดันไปยุ่งกับเขาเพราะกลัวไม่มีน้ำมันใช้..เพียงใด ผมเองก็เชียร์เรื่องนี้ครับ...สวัสดี